#ฆราวาส มีบทบาทที่สำคัญมากในการต่ออายุพระศาสนา ด้วยการ #ประพฤติปฏิบัติตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา เพราะถ้าไม่ปฏิบัติ ลำพังเพียงพระภิกษุปฏิบัติก็ยังไม่ได้เพียงพอ ในการที่จะต่ออายุพระศาสนาเลย ทุกส่วนมีการเชื่อมโยงในโครงสร้างพุทธศาสนา ไม่ว่าจะเป็นฝ่าย #ภิกษุบริษัท#ภิกษุณีบริษัท #อุบาสกบริษัท และ #อุบาสิกาบริษัท ทั้งหลายมีความเชื่อมโยงต่อกันและกัน หมายถึงว่า ภิกษุปฏิบัติก็เพื่อที่จะนำ ให้ฆราวาสรับรู้รับทราบ(แนว)ทางการปฏิบัติ แล้วปฏิบัติให้เข้าถึงผล พระภิกษุรู้ธรรมเหล่าใด พึงบอกธรรมเหล่านั้นแก่ฆราวาสที่มุ่งบุญกุศล มุ่งประพฤติธรรมขัดเกลากิเลส เมื่อภิกษุบอกธรรมที่ตนเองได้รู้แล้วแก่ฆราวาส ฆราวาสเหล่านั้นย่อมมีสติปัญญา พากเพียรประพฤติปฏิบัติ เข้าถึงธรรมอันที่ภิกษุล่วงรู้นั้นได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้ง ๒ ฝ่าย คือ ๑.การกระทำความทุกข์ให้หมดสิ้นไป และ ๒.ศาสนาเราก็จะได้รับการสืบต่อ สืบทอด แทบจะทุกด้านเลย ที่ฆราวาสเองมีส่วนในการสืบทอดพระพุทธศาสนา การดำรงอยู่ของพระพุทธศาสนานี้ ถ้าขาดฆราวาสแล้ว ลำพังพระภิกษุฝ่ายเดียว ไม่สามารถจะนำสืบศาสนาต่อไปได้เลย —————— พระอาจารย์จารุวณฺโณ ภิกขุ (พระอาจารย์ต้น) ส่วนหนึ่งของการสนทนาธรรม live ณ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ วันอาทิตย์ที่ ๕ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๕ ติดตามชมคลิปการสนทนาธรรมของหัวข้อนี้ได้ใน comment (๑.๕๗…
Day: October 2, 2022
#ขันธ์๕กับแก้ว
พระอาจารย์ได้อุปมาอุปไมยเกี่ยวกับตัวเรากับ #ขันธ์๕ขันธ์ ๕ คือ ตัวร่างกายนี้ เปรียบประดุจดั่ง #แก้วเราคือผู้มายึดถือครอบครองเอาเรียกว่า เราเป็นเจ้าของขันธ์คือตัว #ร่างกาย กับ #ใจ หรือชีวิตของเราเองเหมือนกับเราเป็นเจ้าของแก้ว.การเป็นเจ้าของไม่ได้หมายถึงว่าแก้วกับเราเป็นอันเดียวกัน คือ ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน มันคนละสิ่งมันมีของอันหนึ่ง กับผู้เป็นเจ้าของอันหนึ่ง.ฉะนั้นเมื่อแก้วใบนี้เป็นที่รองรับสิ่งที่จะเอาไปใส่เข้าไปข้างใน เทน้ำร้อนลงไป แก้วนี้ก็ต้องร้อน เทน้ำเย็นลงไป แก้วนี้ก็ต้องเย็น.ชีวิตของเราบางที รับสุขบ้าง รับทุกข์บ้างเราก็ต้องปล่อยให้มันเป็น และ #เรียนรู้มันเรียนรู้ที่จะปฏิบัติต่อมัน.#ว่าอะไรควรรู้#อะไรควรละ#อะไรควรทำให้แจ้ง และ #อะไรที่เราควรที่จะเจริญขึ้น.แต่เราจะไม่ไปยึดถืออาการของกายหรือชีวิต หรือขันธ์นี้หรืออะไรก็ตามที่เกิดขึ้นกับแก้วใบนี้มาเป็นสุขเป็นทุกข์ในตัวเรา.เพราะแก้วมันก็รับไปแล้ว รับผลตรงนั้นไปแล้วนอกจากว่าแรงแห่งการ #ยึดติดด้วยอำนาจของ #ตัณหา ที่เราไปยึดว่าแก้วได้รับกระทบกับสิ่งใดเราก็เป็นผู้ไปรับทุกข์พร้อมกับแก้วใบนั้นเพราะเรามีความรู้สึกว่า เรากับแก้วเป็นอันเดียวกัน .นี่คือเราขาด #ปัญญา ในการเรียนรู้จากความเป็นจริงและเราไม่สามารถแยกออกได้ว่า#เรากับแก้วเป็นอันเดียวกันหรือไม่เมื่อเราแยกไม่ออกมันก็เลยหลงอยู่กับกายกับใจของเราเองว่าคือแก้วใบนี้เมื่อเราหลงมากเข้า แม้แก้วใบนี้แตกมันก็จะส่งผลต่อความรู้สึกของเรา.แม้ร่างกายเรากำลังจะแก่ กำลังจะเจ็บ กำลังจะตายหรือกำลังจะเจอทุกข์อะไรต่าง ๆมันก็ส่งผลต่อผู้ที่เป็นเจ้าของ.ถ้าคิดถึงตัวผู้เป็นเจ้าของจริง ๆ ว่า#ใครเป็นเจ้าของของร่างกายเราตัวร่างกายเราจริง ๆ แล้วมีเจ้าของจริง ๆ อยู่ ๓ เจ้าก็คือ #นายชรา อันที่สองคือ #นายพยาธิอันที่สามคือ #นายมรณะ นี่คือ เจ้าของที่แท้จริง.ตอนนี้เมื่อเราเกิดขึ้นมาแล้วนายชราก็จะนำไปหาความเจ็บคือ ส่งต่อไปให้นายพยาธิ เข้ามาทำหน้าที่ต่อนายพยาธิก็ส่งต่อไปให้นายมรณะนายมรณะ คือ ความตาย.นั่นหมายถึงว่าเรารอการตายอยู่ในการใช้ชีวิตของมนุษย์นี้เมื่อเราใช้ชีวิตโดยการรอการตายอยู่การหลงยึดถือในสิ่งที่มันแก่ มันเจ็บ มันตายพระองค์จึงสอนให้พุทธสาวกให้เข้าใจว่าเราจะไม่มีทางหลุดพ้นได้เลยถ้าเรายังยึดถือสิ่งที่ #แก่ สิ่งที่ #เจ็บ สิ่งที่ #ตาย ว่าเป็นตนเพราะเราก็จะต้องเกิดมาเพื่อแก่ เพื่อเจ็บ เพื่อตายอีกเกิดใหม่อีก ก็จะเกิดมาเพื่อแก่ เพื่อเจ็บ เพื่อตายอีกแต่เราไม่ได้รู้หรอกว่าเราจะเกิดมาเพื่อแก่ เพื่อเจ็บ เพื่อตาย.เราใช้ชีวิตโดยการมั่นหมายในชีวิตว่าเป็นเราเป็นตัวตนของเราเราจะใช้ร่างกายชีวิตนี้ให้เป็นไปตามที่เราต้องการตราบที่อำนาจของ #ตัณหาที่คอยสั่งการและบอกใจเราอยู่ให้เราทำตามสิ่งนั้นสิ่งนี้ ตอบสนองตามใจอยากซึ่งมันจะไม่มีทางหมดสิ้นไปได้กับความต้องการของ #ตัณหา ที่มันจะเกิดขึ้นเพราะใจของมนุษย์ไม่เคยอิ่ม.อย่าว่าแต่ใจเลยแม้แต่อายตนะเองทาง #ตา#หู#จมูก#ลิ้น#กาย#ใจพระองค์ก็เคยตรัสบอกว่า ตาไม่เคยอิ่มรูป มันอยากจะดูอยู่อย่างนั้นมันจะเห็นอยู่นั่นหนะ หูก็ไม่เคยอิ่มเสียง มันก็อยากจะฟังเสียงไปเรื่อย จมูกก็ไม่เคยอิ่มกลิ่น ลิ้นไม่เคยอิ่มรส กายไม่เคยอิ่มต่อการสัมผัส ใจก็ไม่เคยอิ่มกับอารมณ์มันจะกินอารมณ์กันอยู่อย่างนี้ จิตกับอารมณ์.ฉะนั้น เราอยู่กับสิ่งที่มันจะต้องมีตัณหาคอยผลักดันอยู่ตลอดตามความอยากตามความต้องการในชีวิตของพวกเรามันคือความเป็นจริงแล้วในความเป็นอยู่ที่มันมีทั้งตัณหา ทั้งความทุกข์เรามาเป็นเจ้าของร่างกายโดยการหลงยึดถือสิ่งที่เป็นของโดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองนี้ สามารถเป็นอิสระจากตัวเองเป็นอิสระจากแก้วใบนี้ก็ได้แม้ว่ามันแตกไปแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นใด ๆที่เราจะต้องไปทุกข์ ไปอะไรกับมัน.นี่คือความไม่เข้าใจของเราเราเลยไม่เป็นอิสระจากเรื่องราวอารมณ์ทั้งหลายที่เรายึดมั่นถือมั่นอยู่อะไรก็ตามที่ส่งผลกระทบต่อกายกับใจทั้งชีวิตเราหรือความรู้สึกอะไรบางอย่างเราก็จะคว้ายึดจับมาเป็นปัญหาได้หมดทุกเรื่องทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ก็คือการที่เราไม่ได้แยกออกมาให้ได้เห็นความเป็นจริง ระหว่างเรากับสิ่งที่เป็นเจ้าของ…