เมื่อเวลาวิบากกรรมจะให้ผล พลังแห่งกรรมจะเชื่อมโยง บุคคล กาลเวลา สถานที่ เพื่อกระทำเหตุการณ์ให้เกิดขึ้น พลังแห่งกรรมจะดึงบุคคลที่อยู่ในข่ายแห่งวิบากให้เข้ามารับกรรมวิบากร่วมกันอย่างที่คาดคิดไม่ถึง ในโลกนี้ไม่มีใครต้านแรงแห่งกรรมได้ และกรรมจะออกมาในรูปลักษณะไหนนั้น ก็ไม่มีใครที่จะทราบได้ แต่เมื่อมันเกิดขึ้น ก็มีแต่ต้องก้มหน้าก้มตายอมรับโดยถ่ายเดียว เพราะเป็นทางเดียวที่จะทำให้กรรมนั้นเป็นอโหสิได้(กรรมที่ให้ผลสำเร็จแล้ว) คือ ต้องยอมรับ จะทำอย่างไรได้เล่า ก็ชีวิตย่อมเป็นไปตามกรรมอยู่แล้ว จะโทษกรรมก็ไม่ได้ จะโทษตนเองก็ไม่ถูก จะโทษคนอื่นก็ใช่เหตุ การที่มัวแต่โทษสิ่งนั่นสิ่งนี้อยู่ ย่อมทำให้ชีวิตจมปลักและข้องอยู่กับปัญหา หากจะโทษ ก็ให้โทษวัฏฏสงสารการเวียนว่ายตายเกิด ที่เราหาข้อยุติกับมันไม่ได้ มันเป็นโทษของวัฏฏะโดยแท้ ! ผู้ฉลาดย่อมเรียนรู้ความผิดพลาดมากกว่าที่จะไปโทษความผิดพลาด ฉันใด ผู้ฉลาดย่อมเรียนรู้กรรมและผลของกรรมที่เกิดขึ้น มากกว่าที่จะไปโทษกรรมที่กำลังให้ผลอยู่ ฉันนั้น ทางที่ดีที่สุดให้หาทางออกไปจากวัฏฏะนี้ให้เร็วที่สุด จึงจะได้รับความปลอดภัยจากโทษแห่งวัฏฏะนั้น แม้กรรมจะยังส่งผลอยู่ กรรมนั้นก็เป็นอโหสิกรรมที่ให้ผลสำเร็จเป็นชาติสุดท้าย จารุวณฺโณ ภิกฺขุ (พระอาจารย์ต้น)#AjahnTon