เมื่อสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป เราควรระลึกถึงคุณค่าของบุคคลที่จากไปมากกว่าการที่จะเศร้าโศกเสียใจต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้น … คุณค่าของบุคคลคนนั้นที่เราเกี่ยวโยงผูกพันด้วย แม้เขาจะจากไปแล้ว แต่ความทรงจำในเรื่องราวของเขายังอยู่ในใจของเรา ความทรงจำอันเป็นคุณค่านี้เอง ที่ทำให้เรารู้สึกว่าเขายังอยู่ จากไปเพียงร่างกายเท่านั้น เราต้องยอมรับเรื่องการสูญเสียว่า มันคือความจริงที่เกิดขึ้น แต่การตระหนักรู้ถึงคุณค่าของผู้ที่จากไปในความดี ในสิ่งที่เราเคยเกี่ยวข้อง ในความสัมพันธ์ ในคุณประโยชน์ที่ได้กระทำต่อกันมา ระลึกถึงและตระหนักถึงคุณค่าให้มากกว่าการเศร้าโศกจากการสูญเสีย เราจะรับรู้ได้ว่า เราไม่ได้เสียใครไป โดยผู้ที่จากไปก็ยังเกี่ยวโยงกับเราอยู่ดังเดิม …. จารุวณฺโณ ภิกฺขุ (พระอาจารย์ต้น)#AjahnTon‘
Author: Prawit Wachirayano
#ธรรมชาติแห่งความไม่เที่ยง#
ธรรมชาติเหล่าใดที่ไม่เที่ยง ธรรมชาติเหล่านั้นก็ย่อมไม่เที่ยงอยู่อย่างนั้น ไม่มีใครเปลี่ยนธรรมชาติที่ไม่เที่ยงให้เป็นของที่เที่ยงได้ ธรรมชาตินั้นจึงเป็นสัจจะในตัวของธรรมชาติเอง. ด้วยความที่ธรรมชาติแห่งความไม่เที่ยงได้แสดงความไม่เที่ยงผ่านกายสังขารและจิตสังขารอยู่ทุกขณะ ความสำคัญมั่นหมายในการยึดกายสังขารและจิตสังขารว่าเป็นตน ทำให้ธรรมชาติแห่งความไม่เที่ยงเบียดเบียนบีบคั้นผู้ยึดนั้นอยู่. เมื่อผู้ยึดถูกธรรมชาติแห่งความไม่เที่ยงเบียดเบียนบีบคั้นอยู่เรื่อยๆ ความทุกข์จึงเกิดขึ้น เมื่อผู้ยึดมีความทุกข์ ก็ไม่อยากให้ตนเองมีความทุกข์ จึงสร้างตัณหาขึ้นมาผลักไสความทุกข์ออกจากตน ตัณหาจึงครอบงำผู้ยึดนั้นไว้ในวงจรแห่งความทุกข์. มีหนทางเดียวเท่านั้นที่จะทำให้พ้นออกจากวงจรแห่งความทุกข์ได้ คือการวางกายสังขารและจิตสังขารไว้ตามธรรมชาติแห่งความเปลี่ยนแปลงของเขา อย่าสำคัญมั่นหมายในกายสังขารและจิตสังขารว่าเป็นตน แม้กายสังขารและจิตสังขารจะประสบกับความทุกข์ยากลำบากเพียงใดก็ตาม นั่นก็เป็นเพียงธรรมชาติแห่งความไม่เที่ยงที่แสดงตัวออกมาตามธรรมดาเท่านั้น. อวิชชา กิเลส อนุสัย สังโยชน์ กรรม และวิบาก จะส่งผลให้กายสังขารและจิตสังขารเป็นไปอย่างไรก็ตาม ก็เป็นเรื่องของความไม่เที่ยงที่ปรากฏตามเหตุปัจจัยของชีวิต อย่าตื่นกลัวกับเรื่องเหล่านี้ เพราะมันเป็นเรื่องของสังขารที่มีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว. ความไม่สำคัญมั่นหมายในกายสังขารและจิตสังขารจะก่อให้เกิดปัญญาเข้าไปรับรู้ความไม่เที่ยงนั้น เมื่อความไม่เที่ยงถูกรับรู้อยู่ จึงไม่มีผู้หลงผิดเข้าไปยึดในสิ่งที่ไม่เที่ยงนั้น ตัวตนที่จะเข้าไปรับผลแห่งความไม่เที่ยงในกายสังขารและจิตสังขารก็ไม่มี มีแต่ความไม่เที่ยงเท่านั้นที่ปรากฏอยู่ ผู้กำหนดรู้ความไม่เที่ยงอยู่เสมอ ย่อมเห็นแจ้งในกายสังขารและจิตสังขารตามความเป็นจริง ผู้รู้อยู่เห็นอยู่อย่างนี้ย่อมสลัดออกจากกองทุกข์ทั้งปวงได้. จารุวณฺโณ ภิกฺขุ (พระอาจารย์ต้น)#AjahnTon‘
ย้ำ ๆ ซ้ำ ๆ เราทำได้ ✌️
แอด-มินท์คิดว่าเคล็ดลับของการปฏิบัติธรรมเพื่อรู้ธรรมมันก็มีอยู่แค่นี้ คือ ทำย้ำ ๆ ซ้ำ ๆ เพราะจะให้ทำอะไรมากไปกว่านี้มันก็ไม่มีอะไรให้ทำนอกจาก การทำย้ำ ๆ ซ้ำ ๆได้แก่ ฟังย้ำ ๆ ซ้ำ ๆอ่านย้ำ ๆ ซ้ำ ๆท่องย้ำ ๆ ซ้ำ ๆคิดพิจารณาย้ำ ๆ ซ้ำ ๆ กับเรื่องเดิมๆ ซ้ำ ๆ ย้ำ ๆคือ ธาตุ 4 ขันธ์ 5 อายตนะ 6 และทุกครั้งที่มีความลังเลสงสัยว่าเราจะทำได้มั้ยแอด-มินท์ก็จะคิดเสมอว่าเราทำได้แน่ 💪เพราะการทำย้ำ ๆ ซ้ำ ๆ นี้เป็นสิ่งที่เราทำมาตั้งแต่เกิด เรา… อาบน้ำย้ำ ๆ ซ้ำ ๆแปรงฟันย้ำ ๆ ซ้ำ ๆกินข้าว ย้ำ ๆ ซ้ำ ๆนอนย้ำ ๆ ซ้ำ…
“ธรรมนาวามรรคภาวนา เพื่อความพ้นทุกข์”
✍️สรุปขั้นตอนการดำเนินมรรค (ฉบับปรับปรุงใหม่) ‼️‼️ตามแนวทางที่พ่อแม่ครูอาจารย์ พระอาจารย์ปฏิปทา วัตร วางไว้ให้ 🙏 แอด-มินท์นั่งทำอยู่ตั้งนานหวังว่าแฟนเพจจะถูกใจ และนำไปใช้-ชอบ-แชร์ กันถ้วนหน้านะคะ ขอทุกคนได้ข้ามพ้นทะเลวนแห่งวัฏฏสงสารกันทุก ๆ คนเลยนะคะรวมถึงตัวแอด-มินท์ด้วย สาธุ สาธุ 😊 ป.ล. ภาพนี้ได้รับการตรวจจากพระอาจารย์ปฏิปทา วัตร และพระอาจารย์ The Rock Stone เรียบร้อยแล้ว 🌸
Seeking Wisdom in Suffering 💡💡💡
✍️ We must keep an open mind to study and understand our suffering. Be wise enough not to blind ourselves from its lessons. ✍️Suffering is a noble truth that we must comprehend; not a dreadful thing to escape. Most people view suffering as undesirable; thus, hindering themselves from such a precious learning opportunity. ✍️We must…
ครูเงาะพานักเรียนมาศึกษาธรรม ๑๑-๑๓ ก.ย. ๒๕๖๕
เส้นทางอริยมรรค EP๔
การเข้าสู่อริยภูมิ (ต่อ) (๔. พระอรหันต์) พระพุทธเจ้าทรงแสดงการละกิเลสไว้ในสังโยชน์ ๑๐ ประการที่จะทำให้บรรลุถึง “นิโรธ” (ความดับทุกข์) สำหรับ พระอนาคามี ที่จะเข้าสู่ความเป็น พระอรหันต์ การกำหนดรู้อริยสัจนั้น ให้กำหนดรู้ในสังโยชน์ต่อไปนี้คือ ๑๐. อวิชชา ความไม่รู้ ตามแบบแสดงไว้ ๘ อย่าง ดังนี้ ๑. ไม่รู้อดีต ๒. ไม่รู้อนาคต ๓. ไม่รู้ปัจจุบัน ๔. ไม่รู้ทุกข์ ๕. ไม่รู้เหตุให้เกิดทุกข์ ๖. ไม่รู้ความดับทุกข์ ๗. ไม่รู้ทางปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ ๘. ไม่รู้จักปฏิจจสมุปบาท (ธรรมอันอาศัยกันเกิดขึ้น) พระอนาคามีในระดับนี้ ยังไม่สามารถทำลายอวิชชาได้ จึงยังไม่พ้นจากวงจรการเกิด แต่ก็เป็นที่โชคดีที่การเกิดของท่านจะไม่หมุนกลับมาเกิดในมนุษย์และเทวดาอีก (กามธาตุ) เพราะการเกิดของท่านจะเกิดอยู่ในสุทธาวาสพรหม (วิภวตัณหา) ชั้นอกนิฏฐา (อะ-กะ-นิด-ถา) อันเป็นแดนใกล้ต่อพระนิพพาน ถึงแม้จะมีจิตที่ใกล้ต่อการบรรลุพระนิพพานก็ตาม แต่ถ้ายังไม่บรรลุ ก็ยังจะทำให้จิตมีทุกข์ได้ ถึงแม้จะเป็นทุกข์น้อยนิด ก็ไม่เป็นที่น่าปรารถนาของพระอนาคามีในขั้นนี้ เพราะฉะนั้นจึงต้องทำลายอวิชชาให้ได้…
#พระพุทธองค์กับการโต้วาทะ
#พระพุทธองค์กับการโต้วาทะ เมื่อคราวที่พระพุทธองค์ประทับอยู่ที่ป่ามหาวัน เมืองเวสาลี คราวครั้งนั้น มีสัจจกนิครนถ์เป็นนักโต้ตอบ พูดยกตนว่าเป็นปราชญ์ ถูกยกย่องว่ามีความรู้มาก เขาประกาศตนเองไปทั่วเมืองเวสาลีว่า “เราไม่เห็นสมณะ หรือพราหมณ์ที่เป็นเจ้าหมู่เจ้าคณะ เป็นคณาจารย์ แม้ที่ปฏิญญาว่าเป็นอรหันตสัมมาสัมพุทธะ เมื่อได้โต้ตอบกับเราแล้ว จะไม่ประหม่า ไม่สะทกสะท้าน ไม่หวั่นไหว ไม่มีเหงื่อไหลจากรักแร้แม้แต่คนเดียว หากเราโต้ตอบกับเสาที่ไม่มีเจตนา เสานั้นยังต้องประหม่า สะทกสะท้าน หวั่นไหว จะป่วยกล่าวไปใยถึงมนุษย์เล่า” ในวันหนึ่ง สัจจกนิครนถ์ได้เข้าไปหาพระพุทธองค์พร้อมด้วยบริวาร ปารภเรื่องที่จะโต้ตอบกับพระพุทธองค์ ได้กล่าวขึ้นว่า สัจจกะ : สมณโคดม ท่านสอนสาวกอย่างไร? พระพุทธองค์ : เรากล่าวสอนสาวกโดยมากว่า ขันธ์ ๕ ไม่เที่ยง ไม่คงทนถาวร และมิใช่ตน สัจจกะ : ท่านผิดแล้วสมณโคดม พระพุทธองค์ : ผิดอย่างไรหรือ สัจจกะ? สัจจกะ : ก็เหมือนดั่งพืชพันธุ์ไม้ ต้องอาศัยแผ่นดิน ตั้งอยู่บนแผ่นดินเท่านั้นถึงจะเจริญงอกงามได้ หรือการงานที่ต้องใช้กำลังวังชา ก็ต้องกระทำกันอยู่บนแผ่นดิน ตั้งอยู่บนแผ่นดิน จึงกระทำกันได้ ฉันใด…
เส้นทางอริยมรรค EP๓
#การเข้าสู่อริยภูมิ (ต่อ) (๓. อนาคามี) พระพุทธเจ้าทรงแสดงการละกิเลสไว้ในสังโยชน์ ๑๐ ประการที่จะทำให้บรรลุถึง “นิโรธ” (ความดับทุกข์) สำหรับชั้น อนาคามี การกำหนดรู้อริยสัจนั้น ให้กำหนดรู้ในสังโยชน์ต่อไปนี้คือ ๕. รูปราคะ ความติดใจในรูปฌาน ๖. อรูปราคะ ความติดใจในอรูปฌาน ราคะมีอยู่ ๒ ชั้น ที่พระอนาคามี “ละ” ได้นั้น เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับกาม เรียก กามราคะ ส่วน รูปราคะ เป็นความยินดีในรูป สิ่งใด ๆ ก็ตามที่เป็นวัตถุรูป ปรากฏตั้งอยู่ในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นรูปหยาบ รูปละเอียด รูปใกล้ รูปไกล รูปเลว รูปประณีต รูปนอก รูปใน รูปทั้งหมดนี้เป็นที่ตั้งที่อยู่ของราคะ พระอนาคามียังมีความ “ยินดี” ในรูปเหล่านี้อยู่ รูปราคสังโยชน์ก็ยังผูกใจของพระอนาคามีได้ ส่วน อรูปราคะ คือ ความยินดีในมรรคผล คุณธรรมขั้นต้น ๆ ที่เกิดขึ้นในจิต…
เส้นทางอริยมรรค EP๒
การเข้าสู่อริยภูมิ (๒. สกทาคามี) พระพุทธเจ้าทรงแสดงการละกิเลสไว้ในสังโยชน์ ๑๐ ประการที่จะทำให้บรรลุถึง “นิโรธ” (ความดับทุกข์) สำหรับชั้น สกทาคามี การกำหนดรู้อริยสัจนั้น ให้กำหนดรู้ในสังโยชน์ข้อต่อไปนี้คือ ๓. กามราคะ ความกำหนัดในกาม ๔. ปฏิฆะ ความหงุดหงิด ความรำคาญ สังโยชน์ ๒ ประการในเรื่อง ราคะ โทสะ โมหะ นี้ สกทาคามีบุคคลจะละได้อย่างเบาบาง ไม่สามารถละได้โดยสิ้นเชิง กามราคะคืออะไร ถ้าจะเอาความหมายตามแบบก็คือ ความใคร่ ความอยาก ความปรารถนา สิ่งที่น่าใคร่น่าปรารถนา กามแบ่งออกเป็น ๒ อย่าง คือ ๑. วัตถุกาม วัตถุอันน่าใคร่ สิ่งที่อยากได้ กามคุณ ๒. กิเลสกาม กิเลสที่ทำให้น่าใคร่ ความอยากที่เป็นตัวกิเลส วัตถุกาม ได้แก่ รูป รส กลิ่น เสียง โผฏฐัพพะ อันเป็นที่ชอบใจ…