ให้ #ระลึกถึงกายจิตจะซ่านไปไหนก็ตาม ให้ระลึกถึงกาย.เช่น นั่งอยู่ก็ให้รู้ว่านั่งยืนอยู่ก็ให้รู้ว่าเรากำลังยืนอยู่โดยมีเท้าสัมผัสกับพื้นอย่างไรหรือว่านอนอยู่ก็รับรู้ว่าร่างกายเราเป็นแบบไหนอย่างไรในขณะที่นอนหรือเดินอยู่ก็รับรู้อิริยาบทของการเดินทำกิจกรรมต่าง ๆ ในภาวะทางกายก็รับรู้ภาวะของกาย.การมี #สติระลึกอยู่ในกายจะดึงความฟุ้งซ่านกลับมาอยู่ที่ร่างกายนี้ก็จะตัดปัญหาเหล่านั้นออกไปการเจริญ #กายคตาสติ (ระลึกรู้อยู่ในกาย)จึงเป็นส่วนสำคัญในการที่จะทำให้จิตของเรานี้กลับมาตั้งมั่น และไม่ฟุ้งซ่านไปตามอารมณ์ได้ —————— พระอาจารย์จารุวณฺโณ ภิกขุ (พระอาจารย์ต้น)ส่วนหนึ่งของการสนทนาธรรม liveณ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์วันอาทิตย์ที่ ๕ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๕ติดตามชมคลิปการสนทนาธรรมของหัวข้อนี้ได้ใน comment (๐.๕๑ นาที)
Day: October 5, 2022
## รู้สึกอิจฉาใคร ห้ามทำ 3 สิ่งนี้ ถ้าไม่อยากให้นิสัยนี้อยู่กับเราตลอดไป ##
เราอาจจะกลายเป็นคนที่ดูแย่ในสายตาคนอื่นก็ได้ แม้เราจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม…..เพราะความรู้สึกอิจฉา เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติของจิต ซึ่งมันไม่ได้ผิด ถ้ามันกำลังเกิดขึ้นอยู่กับเรา แต่ถ้าเราทำ 3 สิ่งนี้บ่อย ๆ ทุกครั้งที่รู้สึกอิจฉา ความอิจฉาจะกลายเป็นนิสัยติดตัวของเราไปเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่เราก็ไม่ได้อยากเป็น ใช่มั้ยล่ะ?# การกรทำที่เราควรระวัง คือ…1. อย่าพยายามแกล้งทำเป็นว่ายินดีเพื่อต้องการให้ใครมองว่าเราดีจุดนี้ถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่ควรจะต้องทำ เพื่อรักษามารยาท รักษาน้ำใจคนอื่นได้ ถ้าเพื่อจุดประสงค์นี้ สามารถทำได้ ไม่ได้ผิดอะไรแต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตาม ที่เราพยายามแสดงความยินดีมากเกินไป เพื่อจุดประสงค์ที่ “ต้องการให้ใคร ๆ มองว่าเราเป็นคนจิตใจดี” หรือ “เพื่อให้ใครมายอมรับเรา” ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้เป็นแบบนั้นจริง ๆเพราะลองสังเกตุดู ว่าเมื่อเราทำแบบนั้น เราจะรู้สึกเหนื่อยมากกกก กับการพยายามทำเพื่อให้คนอื่นพอใจ ทั้ง ๆ ที่ใจไม่โอเค เพราะจริง ๆ แล้ว เราเนี่ยแหล่ะ ที่ต้องการทำให้ตัวเองรู้สึกดี เพราะคิดว่าเราจะรู้สึกดี จากการที่คนอื่นมองว่าเราดี แต่เมื่อทำไปจริง ๆ แล้ว มันโครตจะเหนื่อยเลยถ้าให้พูดตรง ๆ เลย รู้กันดีใช่มั้ยคะว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่…