“ดิถีมาฆบูชาได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่งแล้ว ดิถีเช่นนี้ชวนให้พุทธบริษัท น้อมรำลึกถึงเหตุการณ์ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ ประทานแก่พระอรหันตสาวก 1,250 รูป ซึ่งล้วนอุปสมบทโดยวิธีเอหิภิกขุ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ณ ดิถีเพ็ญเดือน 3 หลังสมเด็จพระบรมศาสดา ตรัสรู้และประกาศพระศาสนาแล้ว 9 เดือน เมื่อพิจารณาจากประวัติการณ์แห่งวันจาตุรงคสันนิบาต ย่อมเห็นประจักษ์ว่า พระภิกษุผู้มาประชุมกันเป็นมหาสังฆสันนิบาตนั้น ต่างพรั่งพร้อมกันมา ณ เวฬุวันมหาวิหาร ด้วยอานุภาพแห่ง “คารวธรรม” พุทธบริษัททั้งหลายผู้เป็นอนุชน จึงพึงเทิดทูนจริยาของพระอรหันต์ทั้งนั้น ขึ้นเป็นแบบอย่างทางประพฤติแห่งตน ๆ โดยสำนึกว่า ถึงแม้พระสาวกทุกรูป ได้บรรลุถึงคุณธรรมสูงสุด ดับกิเลสเพลิงทุกข์ได้สิ้นเชิงแล้ว แต่ก็ยังคงเคารพนอบน้อมอย่างยิ่งต่อพระบรมศาสดา และพระธรรม เพราะฉะนั้น พุทธบริษัทผู้มุ่งหมายความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม จึงจำเป็นต้องมี “นิวาตธรรม” คือความอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นพื้นอุปนิสัย ขอจงระลึกไว้ว่า คุณธรรมแห่งพระอรหันต์นั้น สูงส่งเหนือกว่าอิสริยยศทั้งปวงในโลก หากแต่พระอรหันต์กลับปราศจากความอวดดื้อถือดี ปราศจากความเนรคุณลบหลู่ดูหมิ่น เพราะทุกรูปต่างมีความคารวะนอบน้อมอย่างมั่นคง ต่อพระรัตนตรัย ต่อการศึกษา ต่อความไม่ประมาท และต่อการปฏิสันถาร ดังนี้ บรรดาผู้ยังมีธุลีในดวงตา มีกิเลสเครื่องเศร้าหมองครอบงำใจอยู่ จึงพึงเพียรหมั่นเพิ่มพูนคารวธรรม ให้งอกงามขึ้นในตนอยู่เสมอ…
Day: February 24, 2024
วันมาฆบูชา
วันมาฆบูชา: วันแห่งการย้ำเตือน “การทำความดี ละเว้นความชั่ว และทำจิตใจให้บริสุทธิ์” วันมาฆบูชา เป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนาอีกหนึ่งวัน ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ ของทุกปี เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง “โอวาทปาติโมกข์” แก่พระภิกษุจำนวน ๑,๒๕๐ รูป ซึ่งล้วนเป็นพระอรหันต์ มาประชุมพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมาย โอวาทปาติโมกข์ เปรียบเสมือนรัฐธรรมนูญของพระพุทธศาสนา เป็นหลักการสำคัญในการดำเนินชีวิตของชาวพุทธ เน้นย้ำถึง ๓ หลักการสำคัญ ดังนี้ ๑. การทำความดี ๒. การละเว้นความชั่ว ๓. การทำจิตใจให้บริสุทธิ์ การปฏิบัติตนในวันมาฆบูชา วันมาฆบูชา เป็นโอกาสดีที่เราจะได้หวนกลับมาทบทวนตนเอง ย้ำเตือนให้เราประพฤติตนตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า มาพร้อมใจกันน้อมนำหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าไปประยุกต์ใช้ในชีวิต เพื่อความสุขสงบของตนเองและสังคม