Dhammanava
Menu
  • Home
  • คอร์สอบรมตามแนวทาง ธรรมนาวา “วัง”
  • พระอาจารย์
    • พระอาจารย์จารุวณฺโณ ภิกฺขุ
    • พระอาจารย์คุณวโร ภิกฺขุ
    • พระอาจารย์ชาครธมฺโม ภิกฺขุ
    • หลวงพ่อภูริปญฺโญ ภิกฺขุ
  • Books/หนังสือ
  • VDO/สื่อวีดีโอ
  • ค้นหาธรรม
  • FAQ
  • TikTok
  • Facebook
  • YouTube
  • MP3
  • Line@
  • ติดต่อ/Contact
    • สถานศึกษาธรรมทั้งหมด
Menu

# อุบายที่ควรนำมาใช้ในชีวิตประจำวันอยู่เสมอ

Posted on February 22, 2023February 22, 2023 by Prawit Wachirayano

๑. ระลึกถึงความตายให้เกิดความสังเวชใจว่า ชีวิตเรามีความตายเป็นที่สุด ก่อนที่จะตายเราได้กระทำสิ่งที่ควรกระทำให้สำเร็จประโยชน์แล้วหรือยัง เพราะเมื่อตายไปแล้วเราจะไม่สามารถกระทำสิ่งที่พึงกระทำในโลกนี้ได้อีก ๒. พิจารณาความเสื่อมความสิ้นของชีวิตว่า ชีวิตเราทั้งชีวิตเป็นเพียงสภาพของความเสื่อมความสิ้นที่เกิดสืบเนื่องกันไปจนถึงวาระสุดท้ายแห่งชีวิต อย่าสำคัญมั่นหมายในชีวิตเป็นจริงเป็นจังมากเกินไป เพราะกายกับจิตเป็นเพียงองค์ประกอบที่อิงอาศัยกันอยู่ ไม่มีความมั่นคงอยู่แม้สักขณะหนึ่งเลย เกิดแล้วก็ดับไปในทันที หากยึดมั่นถือมั่นในกายสังขารมากเกินไป ก็ไม่มีอะไรที่จะยึดได้ตามการยึดมั่นถือมั่นนั้นเลย ปรากฏให้เห็นแต่ความเสื่อมความสิ้นอยู่ตลอดเวลา จึงควรที่จะหาวิธีการปล่อยวางอยู่เสมอ ๓. ระลึกอยู่ว่า การเกิดเป็นมนุษย์ของเรานี้ถือว่าเป็นบุญเก่าที่ส่งผลมาจากปางก่อน การใช้ชีวิตอยู่ในเวลานี้จึงเป็นการใช้ชีวิตที่อาศัยบุญเก่าอยู่ตลอดเวลา จึงไม่ควรให้ชีวิตในแต่ละวันล่วงไปโดยเปล่าประโยชน์ หมั่นพิจารณากายสังขารและจิตสังขารที่เกิดจากบุญเก่านี้ว่า บุญจัดเป็นสังขารฝ่ายดี แม้จะดียังไงก็ตามขึ้นชื่อว่าสังขารแล้วย่อมเป็นของไม่เที่ยง สิ่งที่ไม่เที่ยงย่อมเป็นทุกข์ สิ่งที่เป็นทุกข์ย่อมไม่ควรยึดถือว่าเป็นตน เมื่อกายกับจิตของเราในเวลานี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากบุญเก่า บุญเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง ตัวเราก็ไม่เที่ยง บุญเป็นสิ่งที่ไม่คงอยู่ในสภาพเดิม ตัวเราก็ไม่คงอยู่ในสภาพเดิม(ให้มองเห็นความไม่คงอยู่ในสภาพเดิมของชีวิต) บุญเป็นสิ่งที่หมดสิ้นไปได้ ตัวเราก็หมดสิ้นไปได้เหมือนกัน พิจารณาดูจริงๆแล้วเรายึดถือไม่ได้อะไรเลยนอกจากการปล่อยวาง ๔. พิจารณากายได้มากเท่าไหร่ ก็ถอนความเห็นผิดได้มากเท่านั้น คิดไปในเรื่องโลกมากเท่าไหร่ก็หลงไปกับโลกมากเท่านั้น หมั่นพิจารณากายให้คุ้นเคยกับจิตอยู่บ่อยๆ จะช่วยให้จิตคลายอุปาทานได้มากขึ้น ๕. พยายามขบตีความหมายทางธรรมด้วยสติปัญญาให้จิตเข้าถึงข้อ ธรรมนั้นๆอย่างถ่องแท้ จึงจะได้ชื่อว่าเป็นผู้รู้ธรรมเห็นธรรมจริงๆ ๖. พิจารณาให้เห็นความเป็นธรรมดาของโลกอยู่เสมอ เช่น ความผิดพลาดเป็นเรื่องธรรมดา ความสำเร็จก็เป็นเรื่องธรรมดา ความทุกข์เป็นเรื่องธรรมดา ความสุขก็เป็นเรื่องธรรมดา นินทาเป็นเรื่องธรรมดา สรรเสริญก็เป็นเรื่องธรรมดา อย่างนี้เป็นต้น ๗….

Read more

# เราชื่อว่า..พุทธศาสนิกชน

Posted on February 22, 2023February 22, 2023 by Prawit Wachirayano

เราเป็นบุคคลผู้ชื่อว่า ”พุทธศาสนิกชน” ถ้าหากสามารถเรียนรู้ทำความเข้าใจมรรคมีองค์แปด แล้วนำมาปฏิบัติเพื่อให้ถึงความพ้นทุกข์ได้ จะได้ชื่อว่า “สงฆ์สาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า” เราจะเป็นบุคคล ผู้ปฏิบัติเป็นสงฆ์เองพึ่งตัวเราเองในการออกจากกองทุกข์ เราจะไม่เคลื่อนจากพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะ แต่ถ้าเราไปพึ่งอะไรก็ตามที่ไม่ใช่พุทธรัตนะ อย่างเช่นอะไรสิ่งที่กำไว้ในคอเนี่ย เราจะไม่เป็นสังฆรัตนะด้วย . คือเราจะไม่ใช่ผู้ปฏิบัติออกจากกองทุกข์ด้วย เราจะไม่สามารถเข้าไปเห็นสัจจะตามความเป็นจริงได้ . สมมติอุบัติเหตุตู้มตอนนี้ ขอหลวงปู่ช่วยหน่อย ไหนบอกว่าเรามีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา มีความเจ็บป่วยเป็นธรรมดาใช่ไหม . เราจะไม่เห็นความเป็นธรรมดาเหล่านี้ ถ้าเราเคลื่อนออกจากพุทธรัตนะแล้วไปพึ่งพวกนี้ ไม่ได้ อย่างนี้ . เราจะเคลื่อนออกจากความเป็นสังฆะ คือการปฎิบัติตนเพื่อการเป็นสงฆ์สาวกของพระองค์เนี่ย เราจะไม่สามารถปฏิบัติได้ เคลื่อนออกจากสังฆรัตนะแบบนี้ แล้วเราจะไม่สามารถพ้นไปจากความทุกข์ได้ อันนี้ยืนยัน . บุคคลผู้พึ่งสิ่งอื่น จะไม่สามารถพ้นไปจากทุกข์ได้

Read more

# เชื่ออย่างไรให้เกิดปัญญา

Posted on February 22, 2023February 22, 2023 by Prawit Wachirayano

เชื่อพระปัญญาการตรัสรู้ความจริงแห่งสัจธรรมของพระพุทธองค์ เชื่อพระธรรมคำสั่งสอนของพระองค์ และเชื่อความเป็นอริยสงฆ์ อันเกิดจากการปฏิบัติตามพระธรรมของพระพุทธองค์ . ***ไม่ใช่เชื่อพระพุทธเจ้าในรูปแบบวัตถุปลุกเสก เชื่อพระธรรมด้วยการสวดมนต์อ้อนวอน และเชื่อพระสงฆ์เพราะอำนาจการปลุกเสกด้วยอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ . ความเชื่อการดลบันดาลจากอำนาจลึกลับ และเฝ้าคอยอธิษฐานอยู่หน้าองค์พระปฏิมาหลังจากสวดมนต์ทำวัตรเสร็จ เป็นวิถีชีวิตที่ไม่คืบหน้า และผิดจากหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ที่ตรัสไว้ว่า “นัตถิ ปัญญา สมา อาภา แปลว่า ไม่มีแสงสว่างใดเสมอแสงแห่งปัญญา” จากหนังสือ “ชีวิต จิต มนุษย์ ภาวนา” ของพระจารุวณฺโณ ภิกฺขุ (พระอาจารย์ต้น)

Read more

#ความคิดไม่ดี..เอะยังไง??

Posted on February 19, 2023February 19, 2023 by Prawit Wachirayano

ปุจฉา: มีความคิดไม่ดีผุดขึ้นมาระหว่าฟังธรรม ต้องแก้ไข หรือปฏิบัติอย่างไร  วิสัจชนา: จิตเรามีอยู่ ๒ ภาวะ ภาวะหนึ่งที่เรียกว่า #เจตนาอีกภาวะหนึ่งที่อยู่ #นอกเจตนา.ภาวะที่เป็นเตนานี้ เป็นภาวะที่เราจงใจคิด จงใจพูด จงใจกระทำกับภาวะหนึ่งที่ไม่ได้จงใจ เรียกว่า นอกเจตนานอกเจตนานี้เขาเรียกว่า อยู่เหนือการควบคุมจิตที่อยู่เหนือการควบคุม หรือจิตเหนือเจตนาอันนี้เป็นจิตที่ไม่มีกรรมแม้ความคิดนั้น ความรู้สึกนั้น อารมณ์นั้นจะเป็นอกุศลก็ตาม เป็นมิจฉาทิฏฐิก็ตาม ก็ไม่เป็นกรรม.พระองค์ตรัสไว้ว่า เจตนาเป็นตัวกรรม[เจตนาหัง ภิกขเว กัมมัง วทามิ]เรากล่าวว่าเจตนาเป็นตัวกรรมอันที่นอกเจตนานี้ แม้มันจะปรากฏ ก็ไม่ใช่กรรม.มันเป็นเพียงแค่สิ่งที่ติดมากับจิตเท่านั้นเองที่มันจะแสดงออกตามภาวะการณ์ที่เป็นอิสระของมันมันอยู่นอกเจตนาขอให้เข้าใจมันเท่านั้นเองอย่าไปกำจัดมัน ให้เข้าไปรู้ว่าอ๋อ นี่เป็นความคิดนอกเจตนา ไม่มีกรรมในนั้นแค่แสดงความคิด อาการ ออกมาตามธรรมดา.แต่เจตนานี้ต่างหาก รักษาเจตนาเราไว้ให้ดีประเด็นมันอยู่ตรงที่ว่าอันสิ่งที่มันอยู่นอกเจตนานี้ เวลามันเกิดขึ้นมันมักจะล่อลวงเจตนาของเราให้ไปคิดตอบ กระทำตอบถ้ารักษาเจตนาตัวเองของปัจจุบันเอาไว้ไม่ดีมันก็ได้กรรมจากสิ่ง ๆ นั้น.หลักการก็คือ ให้ยึดถือ #พระรัตนตรัย ไว้มันก็จะเป็นหลักยึด มันก็จะไม่น้อมไปสู่ความคิดที่นอกเจตนาเดี๋ยวมันก็หายไปเอง ไม่มีปัญหาอารมณ์ใด ๆ ก็ตามที่เกิด และไม่ไปตอบสนองกับมันนี้มันจะหายไปเอง —————— พระอาจารย์จารุวณฺโณ ภิกขุ (พระอาจารย์ต้น)ส่วนหนึ่งของการสนทนาธรรม liveณ Oh La La Glamping เขาใหญ่วันอาทิตย์ที่ ๒๒ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๖…

Read more

#ปล่อยวางอารมณ์

Posted on February 19, 2023February 19, 2023 by Prawit Wachirayano

จิตใจที่อ่อนแอเป็นจิตใจที่ไร้ที่พึ่ง ไม่มีที่พึ่งพระพุทธเจ้าก็เลยพยายามสอนให้เราได้เข้าใจว่าจิตสักแต่ว่าจิต อย่าไปหวงมัน อย่าไปปกป้องมันมันเป็นธรรมชาติรับอารมณ์ ปล่อยให้มันรับอารมณ์แต่เรารับผลจากการกระทบของมันไม่ได้นี่คือปัญหาใช่ไหมล่ะผลคือความวุ่นวายเราไม่สงบสุขเลยในจิตในใจ… … … ถ้าเราลองปล่อยวางให้อารมณ์มันเกิดขึ้นในจิตจนเสร็จสิ้นกระบวนความของมันในขณะที่เรารับรู้อารมณ์นั้น เราไม่เข้าไปปรุงแต่งต่อพูดง่ายๆ คือ ไม่คิดต่อจากเรื่องราวนั้นที่มากระทบ๑. ไม่คิดต่อจากเรื่องราวที่มากระทบ ๒. ไม่เข้าไปห้ามอารมณ์ที่มากระทบ ๓. อย่าอยากดับอารมณ์ที่กระทบกับจิตอยู่ ๔. ถ้าเราทำได้ในสามข้อนี้ ถ้าอารมณ์ยังไม่ดับ ให้อดทนดูต่อไป อดทนดูอารมณ์ที่เข้ามาในจิตถ้ามีความอดทนได้มันจะเกิดผลข้อที่ ๕ ข้อที่ ๕ คืออะไรรู้ไหมอารมณ์จะดับลงไปด้วยตัวของมันเองเมื่ออารมณ์ดับไปด้วยตัวของมันเองปั๊บความวุ่นวายดับมันจะเป็นอะไรขึ้นมาแทนล่ะคราวนี้ความวุ่นวายหายไป ก็สงบขึ้นมาแทนแสดงว่าการหาความสงบ ไม่ได้หาอยู่ที่อื่นเลย… … … การที่เราหนีออกจากจุดหนึ่งไปอยู่อีกจุดหนึ่งอาจจะสงบได้ชั่วคราวแต่นั่นไม่ใช่การแก้ปัญหา การแก้ปัญหาของพระพุทธเจ้าคือไปแก้ปัญหาที่ตัวรับผัสสะกระทบนั่นมันกระทบใจดูที่ใจ ดูอารมณ์ที่ปรากฏกับใจว่ามันกระทบขึ้นมาแล้วปล่อยให้มันเกิดปล่อยให้มันตั้งอยู่แล้วปล่อยให้มันดับ … … … การไปคิดต่อจากการกระทบที่มันผ่านเข้ามากระทบใจเราหากไปคิดต่อปุ๊บมันก็เป็นการกระทำให้อารมณ์นั้นคลุกคลีอยู่กับใจเราสืบต่ออารมณ์ไปได้อยู่ตลอด… … … “การคิดต่อ” เป็นการหน่วงเหนี่ยวอารมณ์ไว้ถ้าเราคิดต่อนะ ก็บอกเลย๑ ห้ามคิดต่อ ๒ อย่าห้ามอารมณ์ ๓ อย่าอยากดับมัน เพราะถ้าเราเข้าไปดับอย่าลืมว่าอารมณ์เป็นนามธรรม ไม่มีตัวตนเราจะเอาอะไรเข้าไปดับมันล่ะเราอยากจะดับขนาดไหนก็ดับไม่ได้หรอกเพราะไม่มีตัวตน มีแต่อาการมันกระทบแล้วปั๊บ ทำให้จิตใจเราขุ่นมัว หรือวุ่นวายหรือเศร้าหมอง หรือคิดมากไปต่างๆนานา ปัญหารุมเร้าคิดเรื่องนี้ไม่หยุดไม่หย่อนมันจะทำให้เราจมอยู่กับอารมณ์ … ……

Read more

#เครื่องนำทางชีวิตอย่างถูกต้อง

Posted on February 12, 2023February 12, 2023 by Prawit Wachirayano

เครื่องรางปลุกเสก เป็นสิ่งที่มีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แม้ก่อนที่จะมีพระพุทธเจ้ามาเกิด คนยุคนั้นก็นิยมกระทำกันอยู่ แต่เมื่อมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ สิ่งปลุกเสกทั้งหลายก็กลายเป็นความ #งมงาย ที่บุคคลผู้โง่เขลายึดติด . ส่วนผู้ที่ #ตื่นรู้ กับความจริงแห่ง #สัจธรรม เขาทั้งหลายเหล่านั้น ได้สละวัตถุปลุกเสกทิ้ง แล้วยอมรับเอา #พระรัตนตรัย เป็นเครื่องนำทางชีวิตอย่างถูกต้อง —————— พระอาจารย์จารุวณฺโณ ภิกขุ (พระอาจารย์ต้น) ส่วนหนึ่งของหนังสือธรรมนาวา เล่ม ๑ ติดตามเพิ่มได้ที่ instragram account @dharma_day #พุทธศาสนา#ธรรมะ#ธรรมแท้#ธรรมทาน#ปฏิบัติธรรม#ฟังธรรม#คำสอนธรรมะ#ธรรมะสอนใจ#ธรรมะดีดี#วันพุทธ#พ้นทุกข์#ทุกข์#สัจจะธรรมชีวิต#เส้นทางสู่พระนิพพาน

Read more

#การแก้ไขภาวะโรคซึมเศร้าตามแนวทางพระพุทธศาสนา

Posted on February 12, 2023February 12, 2023 by Prawit Wachirayano

๑. ตั้งจิตระลึกถึงพระรัตนตรัยให้บ่อยที่สุดในแต่ละวัน หรือระลึกทั้งวันก็ได้ ด้วยบทระลึกถึงพระรัตนตรัยว่า“พุทโธ เม นาโถ พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้าธัมโม เม นาโถ พระธรรมเป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้าสังโฆ เม นาโถ พระสงฆ์เป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า”ให้ระลึกย้ำๆ ซ้ำๆ ไว้เรื่อยๆ อยู่เสมอ ๒. หากมีอารมณ์ใดเกิดกระทบจิตในแต่ละครั้ง ให้ทักอารมณ์นั้นตรงๆ ไปเลย เช่น หากเกิดความเครียดขึ้นมาให้ทักว่า“นี่คือความเครียดความเครียดกำลังเกิดขึ้นกับจิตจิตกำลังมีความเครียดความเครียดมีอยู่ในจิตจิตกำลังถูกความเครียดปรุงแต่งความเครียดกำลังปรุงแต่งจิต”ให้ฝึกทักอารมณ์อยู่บ่อยๆ ๓. หากอาการซึมเศร้าเกิดขึ้นมามากจนควบคุมไม่ได้ ก็ให้ทักอาการซึมเศร้านั้นตรงๆ ว่า“นี่คืออาการซึมเศร้าอาการซึมเศร้าเกิดขึ้นกับจิตจิตมีอาการซึมเศร้าอาการซึมเศร้ามีอยู่ในจิตจิตถูกอาการซึมเศร้าปรุงแต่งอาการซึมเศร้ากำลังปรุงแต่งจิต”ทักอาการซึมเศร้าไว้เรื่อยๆ จนกว่าจะคลายไป หากเกิดอีกก็ให้ทักอีกอยู่เรื่อยๆ ๔. ให้แผ่เมตตาก่อนนอนทุกคืน [บทแผ่มตตาอยู่ในหนังสือแนวทางชาวพุทธ] ๕. สวดพระปริตร ๒ บทคือ รัตนปริตรกับอาฏานาฏิยปริตร ทุกๆ วัน จารุวณฺโณ ภิกฺขุ (พระอาจารย์ต้น)#AjahnTon

Read more

พรปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๖ จาก พระอาจารย์จารุวณฺโณ ภิกฺขุ

Posted on January 1, 2023January 1, 2023 by Prawit Wachirayano
Read more

#เส้นทางออกจากวัฎฎะ

Posted on December 18, 2022December 18, 2022 by Prawit Wachirayano

เส้นทางออกจากวัฏฏะนี้ มีขึ้นในคราวที่มีพระพุทธศาสนาเท่านั้น ในยุคสมัยที่ไม่มีพระพุทธศาสนาเส้นทางที่จะเดินออกจากวัฏฏะนี้ไม่มีเลย เส้นทางทั้งหลายที่เป็นไปในวัฏฏะ เป็นเส้นทางที่ผูกโยงอยู่กับบุญและบาปภายในชีวิตของเรา ซึ่งเรากระทำบุญหรือกระทำบาปไว้อย่างไร บุญและบาปนั้นเป็นสิ่งกำหนดเส้นทางที่ก่อให้เกิดภพ ภูมิ สถานที่ที่เราจะได้ไปเกิดในที่นั้น ๆ นั่นหมายถึงว่า เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้ชั่วคราวหนึ่ง พอพ้นจากชีวิตในโลกนี้ เราก็จะไปปรากฏอยู่ในอีกโลกหนึ่งตามเส้นทางที่เราได้สร้างไว้ ซึ่งโลกอื่นที่แตกต่างไปจากโลกมนุษย์ คือ โลกตามการกำหนดของบุญและบาปที่เราได้กระทำ คำว่า “โลก” ไม่ได้หมายถึงโลกมนุษย์เท่านั้น โลกยังหมายถึง เทวโลก พรหมโลก เปตโลก อสุรกายโลก เดรัจฉานโลก นรกโลก ฯลฯ นรกโลกนั้น พวกเราก็ได้ยินกันมาแล้ว คงไม่มีใครต้องการไปนรกโลก แต่เส้นทางที่จะให้ไปนรกโลกนั้นมีอยู่ หากได้สร้างเส้นทางไว้แล้ว จะต้องได้ไปแน่นอน มีใครได้สร้างเส้นทางไปนรกไว้บ้าง ต้องตอบว่ามี เราทุกคนเคยสร้างไว้ ผู้ที่จะไม่ไปนรกเลย ได้แก่ผู้ที่อยู่ตั้งแต่ระดับพระโสดาบันขึ้นไป ท่านเหล่านี้ปิดเส้นทางสู่อบายภูมิ ตั้งแต่กำเนิดสัตว์เดรัจฉาน เปรต ผี ปีศาจ อสุรกาย นรก เส้นทางนี้ถูกปิดอย่างถาวรสำหรับท่าน ต่ำกว่าระดับโสดาบันจะปิดเส้นทางนี้อย่างถาวรไม่ได้ แต่สามารถอิงอาศัยหลักการทางพระพุทธศาสนา เพื่อรองรับชีวิตตนไม่ให้ไปสู่ทุคติเลยตลอดแสนกัปป์ โดยในกัปป์ที่หนึ่งแสนจะพ้นออกจากทางแห่งการเวียนว่าย การอิงอาศัยหลักการทางพุทธศาสนา หมายถึงทางแห่งการยึดมั่น ถือมั่นในพระรัตนตรัยในพระพุทธศาสนานั่นเอง จารุวณฺโณ…

Read more

#น้อมนำเวลาแห่งสติกับการปฏิบัติธรรม

Posted on December 10, 2022December 10, 2022 by Prawit Wachirayano
Read more

#สนทนาเรื่องการปฎิบัติภาวนากับเยาวชนคนรุ่นใหม่

Posted on December 10, 2022December 10, 2022 by Prawit Wachirayano
Read more

#หลักกรรม

Posted on December 10, 2022December 10, 2022 by Prawit Wachirayano

หลักธรรมชาติกำหนดไว้ว่า ใครทำสิ่งใด ย่อมได้รับสิ่งนั้น ซึ่งหมายถึงว่า เราแต่ละคน จะต้องรับผิดชอบการกระทำของตนเอง เรื่องนี้พระพุทธเจ้าได้ทรงสอน “หลักกรรม” เพื่อให้รู้ว่า ชีวิตของเราจะไม่ขึ้นตรงต่อสิ่งใด ไม่มีใครจะมาบันดาลให้เราได้ดีหรือได้ชั่วได้เลย ดีหรือชั่วเกิดจากสิ่งที่เราได้กระทำลงไปไม่ว่าจะในขณะใดก็ตาม และในขณะต่อไปก็จะมีเหตุปัจจัย ดึงเราไปสู่การกระทำดีหรือชั่ว ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับจิตของเราในขณะนั้นว่า จะแยกแยะเหตุผลอันเป็นเหตุปัจจัยแห่งการกระทำได้มากน้อยเพียงใด เพราะรู้ซึ้งแล้วว่า เราทำสิ่งใดลงไป สิ่งนั้นจะกลับมาตอบสนองต่อเราอย่างแน่นอน เมื่อเรารู้ว่า ทำอย่างไร ก็จะได้ผลอย่างนั้น หากเราสามารถยอมรับผลที่เกิดขึ้นจากการกระทำได้ ก็ไม่เป็นไร ให้ทำต่อไปทั้งฝ่ายดีและฝ่ายไม่ดี.. พระองค์ตรัสสอนต่ออีกว่า มนุษย์ตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมซึ่งมีอยู่เพียง ๒ ด้าน คือ ดี กับ ไม่ดี ที่จะคอยอำนวยผลตอบสนองให้ ฉะนั้น มนุษย์จึงได้รับผลด้านดีบ้าง ไม่ดีบ้าง เพราะแต่ละคนมีการกระทำทั้งดีและไม่ดี จะทำดีอย่างเดียวก็ไม่ได้ ทำไม่ดีอย่างเดียวก็ไม่ได้เช่นกัน เพราะทั้งสองอย่างนั้น ไม่ใช่ปกติวิสัยของมนุษย์ เราจึงมีทำดีบ้าง ไม่ดีบ้าง สลับสับเปลี่ยนกันอยู่ตลอดเวลา ผลดีและผลไม่ดีจึงตอบสนองมนุษย์สลับกันไปมาเช่นนี้ มนุษย์จึงจะต้องมาเกิดด้วยวงจรของกรรรมที่เมื่อทำไม่ดี ก็ไปทำดีเพื่อมาแก้ไข คือ ทำกุศลเพื่อแก้ไขอกุศล พระพุทธองค์เล็งเห็นว่า หากทำเช่นนี้เรื่อย ๆ คือ เกิดมาแล้ว…

Read more

#การฝึกจิต

Posted on December 10, 2022December 10, 2022 by Prawit Wachirayano

จิตของเราเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะมายาวนาน สะสมสิ่งดี และสิ่งไม่ดีต่าง ๆ ไว้มากมาย โดยทั้งสิ่งดีและสิ่งไม่ดีในจิต จะคอยกระตุ้นเตือนให้เราฝักไฝ่อยู่ในความดี หรือความชั่ว ด้วยการปฏิบัติต่อไปจากเส้นทางเดิมที่เคยทำไว้ให้ถึงที่สุด จิตเป็นที่สะสมของอาสวกิเลส ถ้าหากไม่ฝึกจิต เราก็จะตกเป็นทาสของกิเลสไปตลอดกาล แต่เมื่อฝึกฝน เราก็จะสามารถชำระสะสางกิเลสที่เกาะกุมอยู่ในจิตให้หลุดร่วงออกไปได้ การฝึกจิตจึงได้ชื่อว่า เป็นการทำลายมูลเหตุแห่งความทุกข์ไม่ให้เกิดขึ้นกับจิตของเราได้ หากไม่ฝึกก็เท่ากับเป็นการปล่อยให้จิตถูกเหยียบย่ำ ถูกทำลายด้วยอำนาจของกิเลส และสร้างทุกข์ให้กับจิตใจของเราเองเปล่า ๆ ซึ่งจะทำให้เราดำเนินชีวิตอยู่ในโลกนี้ด้วยความลำบากเปล่า เมื่อฝึกฝนก็จะแก้ไขและชำระกิเลสที่สะสมอยู่ในจิตได้ ความเบาใจ ความอบอุ่นใจ ความสงบร่มเย็นในจิตในใจก็จะเป็นผลเกิดขึ้นตามมาให้กับผู้ฝึกผู้ปฏิบัติได้รับรู้รับทราบ … การฝึกจิตเป็นสิ่งที่มีคุณค่า เพราะศาสนายังมีอยู่ในเวลานี้เมื่อศาสนายังมีอยู่ จึงไม่ควรปล่อยโอกาสของความมีอยู่ของศาสนาให้ผ่านพ้นไปเฉย ๆ แม้จะมีความทุกข์ ความยากลำบากเพียงใดก็ตาม ก็ต้องยอมปฏิบัติ ยอมฟัง ยอมแก้ไขจิตใจ ยอมพัฒนาจิตใจโดยอาศัยหลักคำสอนเข้าไปสู่การปฏิบัติ ก็จะทำให้เราเข้าถึงการพ้นทุกข์ได้ คุณธรรมในศาสนานี้ยังสามารถเข้าถึงได้เสมอ ความเป็นพระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี และอรหันต์อย่างทรงคุณค่า มีอยู่ในศาสนานี้ และเป็นผลรองรับผู้ปฏิบัติทุกกาล ทุกยุค ทุกสมัย การไม่ประมาทในกุศล และทำการไม่ประมาทในข้อปฏิบัติที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ การเพ่งพินิจพิจารณาธรรมที่พระองค์ทรงสอนให้ พิจารณารูปธรรมกับนามธรรม พิจารณาให้รู้แจ่มแจ้งขึ้นมาภายในจิตว่า รูปธรรมคืออะไร นามธรรมคืออะไร เมื่อรู้แจ่มแจ้ง จนเข้าใจในชั้นของปัญญาอีกชั้นหนึ่งเรียกว่าวิปัสสนา…

Read more

# ดับเหตุแห่งทุกข์

Posted on December 8, 2022December 8, 2022 by Prawit Wachirayano

ความโลภ ไม่ได้เกิดจากวัตถุ หรือสิ่งของแต่เกิดจากความคิดของเราเองที่เห็นว่า สิ่งนั้นถูก สิ่งนั้นดี สิ่งนั้นมีประโยชน์ จึงเกิดความอยากได้นี่แหละคือ ความโลภ…. ความโกรธ ไม่ได้เกิดจากการกระทำ หรือคำพูดของใครแต่เกิดจากความคิดของเราเอง ที่เห็นว่าเขาทำไม่ถูก จึงเกิดความไม่พอใจนี่แหละคือ ความโกรธ…. ความหลง ไม่ได้เกิดจากวัตถุ บุคคล หรือสถานที่แต่เกิดจากความคิดของเราเอง ที่ปรุงแต่งหลอกตนเองอยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดความยินดียินร้ายนี่แหละคือ ความหลง…. เมื่อความโลภ ความโกรธ ความหลง เกิดจากความคิดของเราเองแล้ว ถามว่า เราจะไปดับความโลภ โกรธ หลง ที่ไหน ?…. จารุวณฺโณ ภิกฺขุ (พระอาจารย์ต้น)#AjahnTon ดูน้อยลง

Read more

#ชาติหน้ามีจริงหรือไม่?

Posted on December 4, 2022February 12, 2023 by Prawit Wachirayano

ผู้ถาม : กราบถามพระอาจารย์ว่า ในฐานะของชาวพุทธ เราจะอธิบายเรื่องชาติหน้าและชาติก่อนตามหลักพระพุทธศาสนาอย่างไร ว่าเป็นสิ่งที่มีจริง?พระอาจารย์ : เรื่องนี้จะทราบได้ก็ด้วยอุปมาอุปไมย ขอย้อนถามว่า เราทราบได้อย่างไรว่า มะม่วงที่มีผลสุกเต็มที่ เมื่อร่วงหล่นลงสู่พื้นดิน จะเกิดอีกหรือไม่?ผู้ถาม : เราย่อมทราบได้ โดยสังเกตดูเมล็ดมะม่วงที่ยังสมบูรณ์ดีอยู่ นานวันเข้าย่อมหยั่งรากลงสู่พื้นดิน แตกหน่อ งอกใบใหม่ขึ้นมา การเกิดใหม่ของเมล็ดมะม่วงก็ย่อมมีขึ้นพระอาจารย์ : เราทราบการเกิดใหม่ของเมล็ดมะม่วงได้ ฉันใด พระพุทธเจ้าก็ทรงทราบการเกิดใหม่ของมนุษย์ประดุจดั่งเมล็ดมะม่วง ฉันนั้พระองค์ทราบความจริงเกี่ยวกับการเกิดใหม่ของมุษย์ จึงนำมาตรัสสอน พวกเราก็สามารถทราบเรื่องการเกิดใหม่ได้จากหลักคำสอนดังนี้มะม่วงที่มีผลสุก คือชาติก่อนมะม่วงที่ร่วงหล่นลงสู่พื้น คือกระบวนการการเกิดใหม่การเกิดใหม่ของมนุษย์ในชาติหน้า ก็เหมือนกับเมล็ดพันธุ์พืช คือเมล็ดพันธุ์ เปรียบเสมือน จิต (วิญญาณ)เนื้อในเมล็ดพันธุ์ เปรียบเสมือน ตัณหากรรม (ที่มนุษย์กระทำ) เปรียบเสมือน พื้นดินเมื่อเมล็ดพันธุ์ (แห่งจิต) ได้ร่วงหล่นลงสู่พื้นดิน การบังเกิดขึ้นในภพชาติย่อมมีขึ้น … จารุวณฺโณ ภิกฺขุ (พระอาจารย์ต้น)#AjahnTon 

Read more
  • Previous
  • 1
  • …
  • 3
  • 4
  • 5
  • 6
  • 7
  • 8
  • 9
  • 10
  • Next
  • :
  • :
คำอธิษฐานถึงพระรัตนตรัย เสียงพระอาจารย์ต้น
https://dhammanava.net/wp-content/uploads/2024/09/บทพิจารณากาย.mp4
ศาสนาที่พระพุทธองค์ทรงประกาศ
แนวทางปฏิบัติเพื่อการพ้นทุกข์
กิจกรรมวัยรุ่นฟังธรรม

ธรรมะเพื่อการรู้แจ้ง

 

https://flamboyant-heyrovsky.45-154-25-3.plesk.page/wp-content/uploads/2022/12/ฝึกหัดปฏิบัติ-ทาน-ศีล-สมาธิ-ปัญญา-เพื่อเตรียมพร้อม-พระอาจารย์ต้น_01082020.m4a
October 2025
M T W T F S S
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031  
« Sep    
©2025 Dhammanava