“จิต” เป็นที่เก็บกักอารมณ์ทั้งดีและไม่ดี โดยอาศัยธรรมารมณ์ที่ผ่านเข้ามาทาง ตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ ธรรมารมณ์จึงเป็น “ปรมาณูแห่งจิต” ที่ไหลเข้ารวมกันเป็นพลังงานสะสมไว้ในจิต เมื่อปราศจากธรรมารมณ์เสียแล้ว ปรมาณูแห่งจิตก็สลายไป และจิตก็จะไม่มีอยู่อีกต่อไป กระบวนการสืบต่อทั้งหลายจึงสลายไปเช่นกัน จารุวณุโณ ภิกุขุ (พระอาจารย์ต้น) The “mind” is a reservoir of both good and bad emotions through which the mind-object (Dhammarammana) enters via the six senses : eyes, ears, nose, tongue, body and mind. Therefore, the mind-object (Dhammarammana) is the atom of…
Category: News
*** เดินสู่พระนิพพาน เริ่มอย่างไร ***
การเข้าถึงนิพพาน ฆราวาส ก็สามารถเข้าถึงได้ อย่างสมัยพุทธกาล เช่น นางวิสาขา เป็นต้น [การเข้าถึงกระแสพระนิพพานเพื่อดับทุกข์ทั้งปวง ตัดการเวียนว่ายตายเกิด] . สิ่งที่แนะนำนี้เป็นวิธีง่ายต่อการปฏิบัติ ผ่านกระบวนการเลือกเฟ้นมาเฉพาะทาง อาจจะไม่ได้ปะปนกับครูบาอาจารย์ท่านใด หรือมีส่วนคล้าย ส่วนเหมือน ก็ให้เลือกว่าจะทำตาม หรือไม่ทำตาม ให้เป็นอิสระทางความคิด . เบื้องต้นในหนทางแห่งอริยมรรค พระพุทธองค์บอกว่า เราต้องละสังโยชน์ 10 ประการเท่านั้น และใน 10 ประการ 3 อันดับแรกนี่สำคัญมาก คือ . ○ สักกายทิฏฐิ ความเห็นผิดในกาย ○ วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัยในพระนิพพาน ○ สีลัพพตปรามาส ความหลงผิด ถือผิดในการปฎิบัติ . ดังนั้น ควรทำตามลำดับขั้นตอนดังนี้ . ๑) อธิษฐานจิตเข้าสู่พระรัตนตรัยให้ได้ ในบท [พุทโธ เม นาโถ] พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า [ธัมโม เม นาโถ]…
#ธรรมเนื้อแท้
สิ่งใดล่วงไปแล้ว สิ่งนั้นย่อมดับไปสิ่งใดยังมาไม่ถึง สิ่งนั้นก็ยังไม่เกิดสิ่งใดที่ตั้งอยู่ สิ่งนั้นก็กำลังจะดับ อย่าโหยหากับสิ่งที่ล่วงแล้วอย่ากังวลกับสิ่งที่ยังไม่มาอย่ายึดมั่นกับปัจจุบันมากเกินไป บางคนทุกข์เพราะเรื่องในอดีตบางคนทุกข์เพราะเรื่องในอนาคตบางคนทุกข์เพราะจริงจังกับชีวิตมากเกินไป อดีตคือสิ่งที่ล่วงไปแล้วอนาคตคือสิ่งที่ยังมาไม่ถึงปัจจุบันคือสิ่งที่กำลังจะดับ อดีตแก้ไขไม่ได้อนาคตก็ทำอะไรไม่ได้ปัจจุบันก็ยึดถืออะไรไม่ได้ โลกอันนี้ มันก็เป็นของมันอยู่อย่างนี้แหละถือเอาอะไรก็ไม่ได้ ปล่อยวางเสียปล่อยให้เป็นของของโลกตามเดิม จารุวณฺโณ ภิกฺขุ#AjahnTon
#ความจริงแท้
กายก็ต้องมีความแก่ ความเจ็บ ความตาย หลีกเลี่ยงไม่ได้ จิตก็ต้องมีอารมณ์ หลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน แต่ผู้รู้ไม่ใช่ผู้แก่ ไม่ใช่ผู้เจ็บ ไม่ใช่ผู้ตาย ผู้รู้ไม่ใช่ผู้เป็นอารมณ์ ผู้รู้คือรู้อยู่ เรียกว่าอยู่กับรู้ ไม่ได้อยู่กับอารมณ์ … จารุวณฺโณ ภิกขุ (พระอาจารย์ต้น)#AjahnTon
พระรัตนตรัย
“ตอบทุกคำถาม กับ ครูเงาะ”
วันเฉลิมพระชนมพรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สถานศึกษาธรรมป่านาโสกฮัง บ้านหนองดินดำ ต.หนองสามสี อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ
#สมาธิ
การนั่งเพ่งจิตให้อยู่กับคำบริกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือให้จิตจดจ่อเพ่งอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง นี่คือการฝึกสมาธิที่เราถูกสอนมา ผู้บรรลุถึงสมาธิจะพบกับความสงบล้ำลึกอยู่ภายใน เขาต่างก็พูดถึงประสบการณ์ภายในจิตอย่างลี้ลับ น่าตื่นเต้นอัศจรรย์ใจ และดูเหมือนว่าสิ่งที่เขาพูดถึงนั้น เป็นสิ่งอยู่เหนือความสามารถของคนทั่วไป ยากที่จะเข้าไปสัมผัสถึง จนกลายเป็นผู้วิเศษไป การทำสมาธิเป็นการฝึกเช่นนั้นจริงหรือ? สมาธิที่พระพุทธเจ้ากล่าวสอนนั้น เป็นสมาธิที่ก่อให้เกิดปัญญา ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ทุกสภาพการณ์ เพียงแค่ให้เราพยายามสนใจจิตในขณะที่กระทบกับอารมณ์แล้วทักอารมณ์นั้นตรงๆ เมื่อประสบกับสิ่งที่น่าขัดเคืองใจแล้วเกิดความโกรธขึ้น ก็ให้ทักว่า “นี่คือความโกรธ เรากำลังโกรธอยู่ จิตกำลังถูกความโกรธปรุงแต่ง ความโกรธกำลังปรุงแต่งจิต จิตเรามีความโกรธ ความโกรธมีอยู่ในจิตเรา” … นี่คือความโมโหเรากำลังโมโหอยู่ นี่ความหงุดหงิดเรากำลังหงุดหงิดอยู่… เรากำลังฟุ้งซ่านอยู่ เรากำลังเศร้าโศกเสียใจอยู่ เรากำลังคับแค้นใจอยู่ เรากำลังทุกข์อยู่… การทักอารมณ์เช่นนี้ จะช่วยให้เรามีสมาธิที่รู้เท่าทันต่ออารมณ์ในขณะปัจจุบัน และจะส่งผลให้เกิดปัญญารู้เห็นความเกิด-ดับของอารมณ์ได้ การรู้เห็นความเกิด-ดับจะเป็นความรู้เป็นไปเพื่อการละกิเลสและเข้าถึงความดับทุกข์ได้ สมาธิที่เกิดจากการเพ่ง จดจ่อ บังคับ เป็นสมาธิที่ไม่รู้ในอารมณ์ที่มากระทบ ทำให้ความรู้ถูกจำกัดอยู่วงแคบ ปัญญาจะเหือดแห้งไปโดยทันที และจะทำให้สัมพันธภาพกับโลกภายนอกขาดไป … จารุวณฺโณ ภิกฺขุ#AjahnTon ดูน้อยลง
Discover the Best Roulette Hack App for Online Casino Success
Jeetbuzz 123 Login – Access Your Account Now
Go to the casino Content: Navigating the Jeetbuzz 123 Login Process Exploring the World of Jeetbuzz 123 Enjoying Responsible Gaming on Jeetbuzz 123 Jeetbuzz 123 Customer Support: Your Safety Net Ready to dive into a world of thrilling games and incredible rewards? Jeetbuzz 123 লগইন করুন is your gateway to an exceptional online gaming experience….
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์จารุวณฺโณ ภิกฺขุ
สถานศึกษาธรรมดอยธรรมนาวา
“www.dhammanava.net” สร้างขึ้นเพื่อเผยแผ่ธรรมะทางพระพุทธศาสนาที่อธิบายโดยพระอาจารย์ จารุวณฺโณ ภิกฺขุ ซึ่งเป็นการอธิบายธรรมะในอีกแง่มุมหนึ่งที่ชาวพุทธควรศึกษา ศาสนาพุทธมุ่งเน้นเรื่องการพ้นทุกข์ และสอนให้รู้จักทุกข์ และวิธีการดับทุกข์ ให้พ้นจากความไม่รู้ความจริงในธรรมชาติ อันเป็นเหตุให้เกิดทุกข์จากกิเลสทั้งปวงมี ความเห็นผิด ความไม่รู้จริง เป็นต้น รวมทั้งเน้นการศึกษาทำความเข้าใจ การโยนิโสมนสิการด้วยปัญญา และพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง เห็นเหตุผลว่าสิ่งนี้มีสิ่งนี้จึงมี จนเห็นตามความเป็นจริงว่าสรรพสิ่งในธรรมชาติเป็นไปตามกฎไตรลักษณ์ และสัตว์โลกที่เป็นไปตามกฎแห่งกรรม แล้วเลือกใช้หลักธรรมในพุทธศาสนาที่เหมาะสมกับผลที่จะได้รับอย่างถูกต้อง ด้วยความไม่ประมาทในชีวิต ให้มีความสุขในทั้งโลกนี้และโลกหน้า ตลอดจนถึงแจ้งในพระนิพพาน ของผู้มีปัญญา ฯลฯ.
“สร้างปัญญาเพื่อดับกรรม”
คนที่ “คิดว่า” ตนเองได้เปรียบคนอื่น นั่นเป็นเพียงการ “คิดว่า” เท่านั้น หรือคนที่คิดว่าตนเองเสียเปรียบคนอื่น นั่นก็เป็นเพียงการ “คิดว่า” เช่นกัน แท้ที่จริง ไม่มีใครได้เปรียบและไม่มีใครเสียเปรียบใครเพราะโลกนี้เป็นโลกแห่ง “กฎของกรรม” นั่นคือใครทำสิ่งใดก็จะได้สิ่งนั้น ไม่มีใครเอาเปรียบใครได้ใครทำกรรมใดไว้ก็จะเป็นผู้ได้รับผลของกรรมนั้น “กรรม” คือเหตุจากปางก่อนที่อำนวยผลในปัจจุบัน แต่ขณะปัจจุบันหากเรามี “ปัญญา” ก็จะทำให้เราอยู่เหนือกรรมได้ ปัญญาที่กล่าวถึงก็คือ “ปัญญาในอริยมรรค” ซึ่งก็คือการเห็นทุกข์ เห็นเหตุให้เกิดทุกข์เห็นความดับทุกข์เห็นวิธีปฏิบัติเพื่อให้ถึงความดับทุกข์ “ปัญญาในอริยมรรค”จะทำให้เราอยู่ “เหนือกรรม” เมื่อเราทำกิจทางด้านปัญญา(กำหนดรู้อริยสัจ ๔)อยู่อย่างสม่ำเสมอ จะทำให้จิตของเราอยู่เหนือกรรม กรรมจะไม่มีพลังดึงจิตเราไปสู่การชดใช้ หรือแม้จะมีเศษของวิบากเข้ามาให้ผล กรรมพอประมาณนั้นย่อมดับไปได้ด้วยปัญญาสัมมาทิฏฐิ แต่หากเป็นกรรมหนักก็จะเหลือส่งผลแก่เราเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น ดังนั้น เมื่อต้องเผชิญกับกรรมเราจึงต้องใช้ “ปัญญา” คือ “ปัญญาในอริยมรรค” นั่นเอง … ____________จารุวณฺโณ ภิกฺขุAjahnTon
#ปัญญาแห่งอริยมรรค
สุขและทุกข์เป็นอารมณ์ของโลก ผู้ที่มีปัญญา ฝึกหัด ปฏิบัติให้เข้าถึง “ทางแห่งอริยมรรค” คือ ทางตามคำสอนของพระพุทธเจ้าโดยไม่ยึดจับเอาอารมณ์ของโลก คือ สุขและทุกข์ มาเป็นเหยื่อล่อให้ตัวเองถูกผูกติดอยู่กับความสุขบางอย่าง หรือปฏิเสธกับความทุกข์บางอย่าง ที่เคยทำอยู่อย่างนี้มาตลอดชีวิต ติดอยู่กับบุญ ติดอยู่กับบาป ติดอยู่กับดี ติดอยู่กับชั่ว ติดอยู่กับถูก ติดอยู่กับผิด นี่คืออารมณ์ของโลกทั้งหมด สติปัญญาที่พระพุทธเจ้าสอน คือ สิ่งที่อยู่เหนือสุข เหนือทุกข์ เหนือดี เหนือชั่ว เหนือถูก เหนือผิด เหนือบุญ เหนือบาปสติปัญญานั้น คือ สติปัญญาของ “อริยมรรค” เป็นสติปัญญาที่จะต้องตั้งไว้ให้รู้เห็นตามความเป็นจริง สติปัญญาที่ตั้งไว้ให้รู้เห็นตามความเป็นจริงนี้แหละ จะทำให้ไม่ตกไปข้างถูก ไม่ตกไปอยู่ในข้างผิด ไม่ตกไปในข้างดี ไม่ตกไปในข้างชั่ว ไม่ตกไปในข้างบุญ ไม่ตกไปในข้างบาป แต่เป็นธรรมกลาง ๆ ที่เรียกว่า “มัชฌิมาปฏิปทา” มัชฌิมาปฏิปทา เป็นธรรมกลาง ๆ ที่ไม่ข้องแวะกับอารมณ์ของโลก จึงทำให้รู้เห็นโลกตามความเป็นจริง โดยไม่ตกเป็นเหยื่อของโลกไม่เอาอารมณ์ของความสุขมาเป็นที่ตั้งในการดิ้นรน ไขว่คว้า แสวงหา ยึดจับเอาความสุขนั้นมาเสวย หรือเอามาเพื่อให้ตนเองได้รับผล หรือพูดง่าย…
#กำหนดรู้ความอยาก
ระหว่างที่ “ความอยาก” เกิดขึ้น จิตของเราจะเกิดความร้อนรนที่จะเข้าไปกระทำตามความอยาก เมื่อความอยากดับไปแล้ว ความร้อนรน และความดิ้นรนที่จะกระทำก็ไม่มี ทั้งสองสภาพจิตนี้ หากเราไม่มีสติในการกำหนดรู้ในขณะที่(ความอยาก)เกิดนั้น เราจะตกเป็นทาสของความอยากไปตลอดกาล …. จารุวณฺโณ ภิกฺขุ [พระอาจารย์ต้น]#AjahnTon๓ มิถุนายน ๒๕๖๒