เส้นทางออกจากวัฏฏะนี้ มีขึ้นในคราวที่มีพระพุทธศาสนาเท่านั้น ในยุคสมัยที่ไม่มีพระพุทธศาสนาเส้นทางที่จะเดินออกจากวัฏฏะนี้ไม่มีเลย
เส้นทางทั้งหลายที่เป็นไปในวัฏฏะ เป็นเส้นทางที่ผูกโยงอยู่กับบุญและบาปภายในชีวิตของเรา ซึ่งเรากระทำบุญหรือกระทำบาปไว้อย่างไร บุญและบาปนั้นเป็นสิ่งกำหนดเส้นทางที่ก่อให้เกิดภพ ภูมิ สถานที่ที่เราจะได้ไปเกิดในที่นั้น ๆ
นั่นหมายถึงว่า เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้ชั่วคราวหนึ่ง พอพ้นจากชีวิตในโลกนี้ เราก็จะไปปรากฏอยู่ในอีกโลกหนึ่งตามเส้นทางที่เราได้สร้างไว้ ซึ่งโลกอื่นที่แตกต่างไปจากโลกมนุษย์ คือ โลกตามการกำหนดของบุญและบาปที่เราได้กระทำ
คำว่า “โลก” ไม่ได้หมายถึงโลกมนุษย์เท่านั้น โลกยังหมายถึง เทวโลก พรหมโลก เปตโลก อสุรกายโลก เดรัจฉานโลก นรกโลก ฯลฯ
นรกโลกนั้น พวกเราก็ได้ยินกันมาแล้ว คงไม่มีใครต้องการไปนรกโลก แต่เส้นทางที่จะให้ไปนรกโลกนั้นมีอยู่ หากได้สร้างเส้นทางไว้แล้ว จะต้องได้ไปแน่นอน
มีใครได้สร้างเส้นทางไปนรกไว้บ้าง ต้องตอบว่ามี เราทุกคนเคยสร้างไว้
ผู้ที่จะไม่ไปนรกเลย ได้แก่ผู้ที่อยู่ตั้งแต่ระดับพระโสดาบันขึ้นไป ท่านเหล่านี้ปิดเส้นทางสู่อบายภูมิ ตั้งแต่กำเนิดสัตว์เดรัจฉาน เปรต ผี ปีศาจ อสุรกาย นรก เส้นทางนี้ถูกปิดอย่างถาวรสำหรับท่าน
ต่ำกว่าระดับโสดาบันจะปิดเส้นทางนี้อย่างถาวรไม่ได้ แต่สามารถอิงอาศัยหลักการทางพระพุทธศาสนา เพื่อรองรับชีวิตตนไม่ให้ไปสู่ทุคติเลยตลอดแสนกัปป์ โดยในกัปป์ที่หนึ่งแสนจะพ้นออกจากทางแห่งการเวียนว่าย
การอิงอาศัยหลักการทางพุทธศาสนา หมายถึงทางแห่งการยึดมั่น ถือมั่นในพระรัตนตรัยในพระพุทธศาสนานั่นเอง
จารุวณฺโณ ภิกฺขุ (พระอาจารย์ต้น)