#การเข้าสู่อริยภูมิ (ต่อ) (๓. อนาคามี) พระพุทธเจ้าทรงแสดงการละกิเลสไว้ในสังโยชน์ ๑๐ ประการที่จะทำให้บรรลุถึง “นิโรธ” (ความดับทุกข์) สำหรับชั้น อนาคามี การกำหนดรู้อริยสัจนั้น ให้กำหนดรู้ในสังโยชน์ต่อไปนี้คือ ๕. รูปราคะ ความติดใจในรูปฌาน ๖. อรูปราคะ ความติดใจในอรูปฌาน ราคะมีอยู่ ๒ ชั้น ที่พระอนาคามี “ละ” ได้นั้น เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับกาม เรียก กามราคะ ส่วน รูปราคะ เป็นความยินดีในรูป สิ่งใด ๆ ก็ตามที่เป็นวัตถุรูป ปรากฏตั้งอยู่ในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นรูปหยาบ รูปละเอียด รูปใกล้ รูปไกล รูปเลว รูปประณีต รูปนอก รูปใน รูปทั้งหมดนี้เป็นที่ตั้งที่อยู่ของราคะ พระอนาคามียังมีความ “ยินดี” ในรูปเหล่านี้อยู่ รูปราคสังโยชน์ก็ยังผูกใจของพระอนาคามีได้ ส่วน อรูปราคะ คือ ความยินดีในมรรคผล คุณธรรมขั้นต้น ๆ ที่เกิดขึ้นในจิต…
เส้นทางอริยมรรค EP๒
การเข้าสู่อริยภูมิ (๒. สกทาคามี) พระพุทธเจ้าทรงแสดงการละกิเลสไว้ในสังโยชน์ ๑๐ ประการที่จะทำให้บรรลุถึง “นิโรธ” (ความดับทุกข์) สำหรับชั้น สกทาคามี การกำหนดรู้อริยสัจนั้น ให้กำหนดรู้ในสังโยชน์ข้อต่อไปนี้คือ ๓. กามราคะ ความกำหนัดในกาม ๔. ปฏิฆะ ความหงุดหงิด ความรำคาญ สังโยชน์ ๒ ประการในเรื่อง ราคะ โทสะ โมหะ นี้ สกทาคามีบุคคลจะละได้อย่างเบาบาง ไม่สามารถละได้โดยสิ้นเชิง กามราคะคืออะไร ถ้าจะเอาความหมายตามแบบก็คือ ความใคร่ ความอยาก ความปรารถนา สิ่งที่น่าใคร่น่าปรารถนา กามแบ่งออกเป็น ๒ อย่าง คือ ๑. วัตถุกาม วัตถุอันน่าใคร่ สิ่งที่อยากได้ กามคุณ ๒. กิเลสกาม กิเลสที่ทำให้น่าใคร่ ความอยากที่เป็นตัวกิเลส วัตถุกาม ได้แก่ รูป รส กลิ่น เสียง โผฏฐัพพะ อันเป็นที่ชอบใจ…
เส้นทางสู่อริยมรรค EP๑
การเข้าสู่อริยภูมิ (๑. โสดาบัน) พระพุทธเจ้าทรงแสดงการละกิเลสไว้ในสังโยชน์ ๑๐ ประการที่จะทำให้บรรลุถึง “นิโรธ” (ความดับทุกข์) สำหรับชั้น โสดาบัน การกำหนดรู้อริยสัจให้กำหนดรู้ในสังโยชน์ ๓ ข้อแรกจากสังโยชน์ ๑๐ อย่าง ได้แก ๑. สักกายทิฏฐิ (สัก-กา-ยะ-ทิด-ถิ) คือ ความเห็นผิดในกาย ยึดมั่นสังขารร่างกายว่า เป็นตัวตน หรือมีความเห็นผิดใน ธาตุ ๔ ขันธ์ ๕ ว่า เป็นตน เป็นของตน ๒. วิจิกิจฉา คือ ความสงสัยในคุณแห่งพระรัตนตรัย สงสัยเรื่องมรรคผล สงสัยพระนิพพาน สงสัยในทางให้ถึงพระนิพพาน ๓. สีลัพพตปรามาส (สี-ลับ-พะ-ตะ-ปะ-รา-มาด) คือ การลูบคลำศีลและวัตร ได้แก่ การรักษาศีล บำเพ็ญวัตร เพื่อจุดมุ่งหมายอื่น เช่น มุ่งสรรเสริญ มุ่งลาภสักการะ เป็นต้น มิใช่เพื่อความบริสุทธิ์ สักกายทิฏฐิคืออะไร สักกายทิฏฐิ คือ…
#ความจริงของชีวิต(๒)
อริยสัจ คือ ความจริงอันประเสริฐ ความจริงของพระอริยเจ้า ความจริงที่ทำให้ผู้เข้าถึงกลายเป็นพระอริยะ ความจริงที่นักภาวนาควรกำหนดรู้ คือ ๑. ทุกข์ : สภาพที่ทนได้ยาก สภาพที่บีบคั้น ความขัดแย้งความบกพร่อง ๒. ทุกขสมุทัย (ทุก-ขะ-สะ-หมุ-ไท) : เหตุเกิดแห่งทุกข์ สาเหตุให้ทุกข์เกิด ที่ตั้งแห่งทุกข์ ตัวก่อทุกข์ ๓. ทุกขนิโรธ (ทุก-ขะ-นิ-โรด) : ความดับทุกข์ ภาวะที่สิ้นทุกข์ ภาวะที่บรรลุถึง ความดับไปแห่งเหตุ ๔. ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา (ทุก-ขะ-นิ-โร-ทะ-คา-มิ-นี-ปะ-ติ-ปะ-ทา) : หนทางดำเนินไปสู่ความดับทุกข์ ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ สาเหตุที่เรียกว่า อริยสัจ เพราะเป็นธรรมที่พระอริยะทั้งหลายอันมีพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์แทงตลอดแล้ว เป็นสัจจะ (ความจริง) ของพระอริยะ เป็นความจริงที่พระอริยะไม่คัดค้าน การเรียนรู้ว่าโดยลำดับ ดังนี้ ๑. ทุกข์ อยู่อันดับที่ ๑ เพราะเป็นของหยาบ หรือเพราะว่าเป็นตัวปัญหาซึ่งมีอยู่ในในใจคน พูดให้ง่ายก็คือ ทุกข์คือตัวปัญหาของมนุษย์ ความทุกข์นี้พระพุทธเจ้าทรงสอนให้กำหนดรู้ คือ รู้ว่าร่างกายเป็นทุกข์…
#ความจริงของชีวิต(๑)
ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ เป็นช่องทางแห่งการรับรู้ รับสัมผัส (ผัสสะ) เกี่ยวข้องกับสิ่งภายนอก ขณะที่มีการรับรู้ รับส้มผัส จึงมีการเสวยอารมณ์ (เวทนา) เป็น ๓ คือ สุขบ้าง ทุกข์บ้าง ไม่ทุกข์ไม่สุขบ้าง เมื่อต้องรับเวทนา ๓ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงมีความอยาก (ตัณหา) ที่จะให้ ‘สุขเวทนา’ คงอยู่ อยากให้ ‘ทุกขเวทนา’ ดับไป ทำให้ต้องพยายามสร้างเหตุปัจจัยต่าง ๆ เพื่อประกอบตนให้มีความสุขอยู่ในโลกนี้ แล้วถือเอา (อุปาทาน) เหตุปัจจัยนั้น ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงความทุกข์ การถือเอาด้วยเหตุปัจจัยในลักษณะนี้ โดยที่ไม่ทราบว่า เวทนาทั้งสามไม่เที่ยง ยิ่งทำให้เกิดความยึดมั่นถือมั่นอย่างแรงไว้ในใจ เพราะการถือมั่นนี้แหละจึงได้เกิดมี ‘ภพ’ (ที่อยู่) ขึ้นในจิต เมื่อมีภพย่อมมี ‘การเกิด’ (ชาติ) แล้วก็เกิดอีกอย่างไม่มีวันสิ้นสุด เมื่อมีการเกิดอยู่บ่อย ๆ แน่นอนว่า ย่อมต้องมีแก่อยู่บ่อย…
ทุกขสัจจ์
#ข้อปฏิบัติในหลักอริยสัจ – การเกิดขึ้นของขันธ์ จัดเป็นทุกขสัจจ์ – ตัณหาที่อิงอาศัยขันธ์เกิดขึ้น จัดเป็นสมุทัยสัจจ์ – ความดับไปของตัณหา จัดเป็นนิโรธสัจจ์ – การรู้จักทุกข์ รู้จักสมุทัย รู้จักนิโรธ จัดเป็นมรรคสัจจ์ . เมื่อเข้าใจหลักอริยสัจในข้างต้นแล้ว ข้อปฏิบัติที่เราจะต้องลงมือทำ คือ ข้อมรรคข้อเดียว อริยสัจข้ออื่น ๆ เพียงแค่ให้ “รู้จักไว้” เท่านั้น การดำเนินมรรค คือ การเข้าไปปฏิบัติต่อทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ด้วยสัมมาทิฏฐิ ดังนี้ . ๑. ทุกขสัจจ์ ให้ “กำหนดรู้” เมื่อขันธ์ ๕ ประสบกับอารมณ์ภายนอกหรือภายใน การปรากฏขึ้นของอารมณ์ เป็นการเกิดขึ้นของขันธ์ การดับไปของอารมณ์ เป็นการดับไปของขันธ์ ให้กำหนดรู้ความเกิด-ดับของขันธ์ไว้อยู่เสมอ . ๒. สมุทัยสัจจ์ ให้ “ละ” เนื่องจากว่าทุกข์ได้ถูกกำหนดรู้ไว้แล้ว ตัณหาจึงเกิดร่วมกับทุกข์ไม่ได้ แล้วจะละตัณหาที่เป็นตัวสมุทัยกันอย่างไร เรื่องนี้ต้องเข้าใจว่า…
“พุทธะ”
ธรรมะสั้นๆ
สัจจะ : Truths
Truths สัจจะ คือสิ่งที่เป็นอย่างนั้น แบบตายตัว ไม่เปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่นTruth is eternal and immutable. It does not change or become something else. สิ่งที่ไม่ใช่สัจจะ เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แต่สัจจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง คือ ความตาย เป็นสัจจะสำหรับมนุษย์Non-truths are impermanent, fleeting and changing, while truths are not. For human beings, death is an eternal truth. ทุกคนเดินไปสู่ความตายกันทั้งหมด มีชราเป็นผู้ต้อนไปความแก่ เป็นผู้ต้อนไปหามรณะWe are all marching relentlessly towards death, with aging as the inevitable driver….
#ปรมาณูแห่งจิต : #The atom of the mind
“จิต” เป็นที่เก็บกักอารมณ์ทั้งดีและไม่ดี โดยอาศัยธรรมารมณ์ที่ผ่านเข้ามาทาง ตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ ธรรมารมณ์จึงเป็น “ปรมาณูแห่งจิต” ที่ไหลเข้ารวมกันเป็นพลังงานสะสมไว้ในจิต เมื่อปราศจากธรรมารมณ์เสียแล้ว ปรมาณูแห่งจิตก็สลายไป และจิตก็จะไม่มีอยู่อีกต่อไป กระบวนการสืบต่อทั้งหลายจึงสลายไปเช่นกัน จารุวณุโณ ภิกุขุ (พระอาจารย์ต้น) The “mind” is a reservoir of both good and bad emotions through which the mind-object (Dhammarammana) enters via the six senses : eyes, ears, nose, tongue, body and mind. Therefore, the mind-object (Dhammarammana) is the atom of…