ปัญญาสัมมาทิฏฐิมีลักษะทำให้เกิดความเห็นถูก อธิบายว่า ปัญหาทุกปัญหาที่เกิดขึ้นจะมีมูลเหตุของมันเสมอ เมื่อได้ประสบกับปัญหาบางอย่าง คนทั่วไปมักจะอยากเข้าไปดับที่ตัวปัญหาก่อน โดยไม่ได้มองถึงสาเหตุที่ก่อปัญหาขึ้นมา การดับปัญหาโดยที่ไม่ได้ดับที่เหตุของมัน ปัญหาจึงไม่มีทางหมดสิ้นได้ ฉะนั้น ควรจะมีการกำหนดรอบรู้ถึงปัญหาแบบสาวหาต้นเหตุแล้วทำความเข้าใจว่าเหตุที่นำมาซึ่งปัญหาจะดับได้หรือไม่ เหตุของปัญหาใดอยู่ในวิสัยที่ดับได้ก็ให้ดับทันที เหตุแห่งปัญหาใดดับไม่ได้ก็ให้กำหนดรู้ไว้ก่อน จนกว่าจะเกิดความรู้ในการดับได้ เมื่อทราบปัญหา ทราบเหตุของปัญหา ทราบการดับปัญหาได้อย่างชัดเจนแล้ว ก็ให้ดำเนินการดับตามความเห็นที่ได้กำหนดทราบไว้อย่างถูกต้องตรงตัว วิธีการดำเนินการดับปัญหานั้นให้แยกปัญหาออกจากเหตุให้ได้ อย่าให้ปัญหากับเหตุปะปนกัน เพราะจะทำให้เราไม่ทราบว่าปัญหาถูกดับที่เหตุหรือที่ตัวปัญหาที่เกิดขึ้นกันแน่ เมื่อแยกปัญหาออกจากเหตุได้แล้ว ก็ให้กำหนดเหตุของปัญหาไว้แล้วแก้ไขเหตุนั้นตามความเป็นจริง โดยเข้าใจตัวเหตุ เข้าใจที่มาของเหตุ เข้าใจที่จะดับเหตุ และเข้าใจที่จะทำเหตุให้สิ้นไป เรื่องนี้ต้องอาศัยความเข้าใจตามแนวอริยสัจเป็นอย่างดีจึงจะแก้ต้นเหตุได้จริงๆ เพราะเหตุบางอย่างแม้ดับได้แล้วก็เกิดใหม่ได้อีก จารุวณฺโณ ภิกฺขุ
অনলাইনে ক্যাসিনো গেমস – লাভবান এবং আনন্দদায়ক
Go to the casino বিষয়বস্তু: অনলাইন বেটিংয়ের জন্য সর্বোত্তম সাইটগুলি বাংলাদেশে অনলাইন বেটিংয়ের সুবিধাসমূহ অনলাইন বেটিংয়ের সেরা সাইট বেছে নেওয়ার টিপস বাংলাদেশে অনলাইন বেটিংয়ের আইনি দিক অনলাইন বেটিংয়ের জগতে স্বাগতম, যেখানে রোমাঞ্চের কোনো সীমা নেই! যদি আপনি রিয়েল মানি গেমসের রোমাঞ্চ উপভোগ করতে এবং অর্থ জিততে চান, তাহলে আমাদের অনলাইন বেটিং সাইট আপনার জন্যই তৈরি।…
“เฉลิมชนม์พรรษาพระพันปีหลวง
พสกนิกรทั้งปวงล้วนเทิดไท้
สดุดีพระเกียรติก้องจงทรงชัย
ปวงชาวไทยขอพระองค์ทรงพระเจริญ”
สถานศึกษาธรรมดอยธรรมนาวา ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย สถานศึกษาธรรมดอยเวียงเกี๋ยงวนา ต.ศรีดอนชัย อ.เชียงของ จ.เชียงราย สถานศึกษาธรรมป่านาโสกฮัง ต.หนองสามสี อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ สถานศึกษาธรรมป่านาหนองพี่ ต.นาวัง อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ ร่วมถวายพระพรชัยมงคล พระชนม์ยิ่งยืนนาน
#ว่าโดยหลักของมรรค
มรรค ๘ ว่าโดยหลักแล้ว ‘สัมมาทิฏฐิ’ เป็นประธานของมรรคทั้ง ๘ ข้อ สัมมาทิฏฐิกับสัมมาสังกัปปะจัดเป็น ‘ปัญญา’ สัมมาวาจา กัมมันตะ อาชีวะ วายามะ จัดเป็น ‘ศีล’ สัมมาวายมะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ จัดเป็นเป็น ‘สมาธิ’ หากมองตามมรรคก็จะได้องค์ไตรสิกขาดังนี้ ‘ปัญญา ศีล สมาธิ’ นี่คือความลึกซึ้งของมรรค ๘ หากไม่มีปัญญาเป็นตัวนำ ศีลที่รักษาก็จะเป็นศีลที่ขาดปัญญา สมาธิที่ทำก็เป็นสมาธิที่ไม่มีปัญญา จึงเกิดมีมิจฉาศีล มิจฉาสมาธิ มิจฉาปัญญาขึ้นมา ฉะนั้น เมื่อบุคคลใดที่ดำเนินตามมรรค ๘ อยู่ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีศีล ไม่มีสมาธิ ไม่มีปัญญา เพียงแต่ในณะที่ดำเนินมรรคอยู่นั้น องค์ของ ศีล สมาธิ ปัญญา ยังไม่เกิดปรากฏเป็นผลขึ้นมารองรับ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มี ศีล สมาธิ ปัญญา ในขณะนั้น หากมรรคเต็มเมื่อไหร่ ศีล สมาธิ ปัญญา จะปรากฏชัดขึ้นมาให้เห็น…
#จะเข้าถึงความเป็นโสดาบันได้อย่างไร
วิธีปฏิบัติเพื่อความเป็นพระโสดาบัน ไม่มีวิธีที่ตายตัว แต่มีหลักการอยู่ที่ว่า ผู้ที่ละสักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาสได้ ก็จะได้เป็นโสดาบัน ซึ่งหลักการนี้ บ่งบอกความเป็นพระโสดาบันไว้อย่างตายตัวอยู่แล้ว ผู้ปฏิบัติเพียงแค่ทำความเข้าใจเนื้อหาของหลักการนี้ให้ถ่องแท้ด้วยวิธีของตนเอง (แล้วแต่ใครจะมีวิธีการของตนอย่างไร) เนื้อหาที่เราจะต้องทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ด้วยตนเองก็คือ สักกายทิฏฐิ คือ ความเห็นผิดในกาย ที่เรายึดถือว่าเป็นตัวตนของเรา ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนยึดกันมาตั้งแต่วันเกิดอยู่แล้ว พระพุทธเจ้าก่อนที่จะตรัสรู้ก็ยึดร่างกายเหมือนกันกับพวกเรา เมื่อเรารู้ว่าเรายึดร่างกายอยู่ ก็เป็นความเห็นผิดของเราเองที่ทำให้เราเกิดมีสักกายทิฏฐิ(ความเห็นผิดในกาย) เจริญมากขึ้น ในหลักการบอกว่า ละสักกายทิฏฐิได้ จะเป็นพระโสดาบัน เพราะฉะนั้น วิธีการที่จะละสักกายทิฏฐิ จะต้องฝึกพิจารณากายให้มากๆ (เน้นย้ำ ต้องมากๆนะ) เพื่อถ่ายถอนความเห็นผิดออกจากจิตเรา อย่าเบื่อหน่ายต่อการพิจารณากาย หากเบื่อหน่าย ก็จะถอนสักกายทิฏฐิไม่ได้ การพิจารณากายนั้น ควรจะเป็นการพิจารณาแยกส่วนต่างๆ ของร่างกายเราออก แล้วให้รู้ด้วยปัญญา (ต้องรู้ด้วยปัญญาจริงๆ นะ ไม่ใช่แค่รู้เฉยๆ) จนถ่องแท้แก่ใจของเราเองว่า ร่างกายเป็นเพียงแค่ธาตุ ๔ ดิน น้ำ ไฟ ลม จริงๆ จากนั้น ให้ฝึกดูร่างกายเป็นธาตุ ๔ นี้ไว้จนจิตเกิดการยอมรับว่า ร่างกายเป็นธาตุจริงๆ ไม่ใช่สัตว์ บุคคล…
#ความคิดไม่ใช่กิเลส
ธรรมชาติใดเป็นธรรมชาติคิดธรรมชาตินั้นชื่อว่า “จิต”…………………………….. อัฏฐสาลินีอรรถกถา อธิบายไว้ว่า ธรรมชาติใดย่อมคิด ธรรมชาตินั้น ชื่อว่า “จิต” ธรรมชาติใดย่อมน้อมไปหาอารมณ์ ธรรมชาตินั้น ชื่อว่า “มโน” จิตที่รวบรวมอารมณ์ไว้ภายในนั่นแหละชื่อว่า “หทัย” มนะที่เป็นอายตนะ คือเครื่องต่อ จึงชื่อว่า “มนายตนะ” มนะที่เป็นอินทรีย์ คือครองความเป็นใหญ่ จึงชื่อว่า “มนินทรีย์” ธรรมชาติใดที่รู้อารมณ์ ธรรมชาตินั้นชื่อว่า “วิญญาณ” วิญญาณที่เป็นขันธ์ จึงชื่อว่า “วิญญาณขันธ์” มนะที่เป็นธาตุชนิดหนึ่งที่รู้อารมณ์ จึงชื่อว่า “มโนวิญญาณธาตุ”……………………………. จารุวณฺโณ ภิกฺขุ
Win Big with Jeetbuzz App
Go to the casino Content: A World of Games at Your Fingertips Safe and Secure Gaming Experience Claim Your Bonuses and Rewards Are you ready to take your mobile gaming experience to the next level? Look no further than the Jeetbuzz app! This exciting platform offers a world of entertainment at your fingertips, with thrilling…
Here are a few options for rephrasing or expanding your title – Discover How to Safely Download Photoshop Cracks and Alternatives A Comprehensive Guide to Downloading Photoshop Cracks and What You Need to Know The Ultimate Resource for Downloading Photoshop Cracks Responsibly Your Essential Guide to Finding and Downloading Photoshop Cracks Understanding the Risks and Benefits of Downloading Photoshop Cracks Let me know if you need more options!
Download The allure of a free version of Adobe Photoshop often leads many to seek out cracked downloads. However, the consequences of using pirated software can be severe, not just legally but also in terms of system security. Downloading a Photoshop crack might seem like an easy solution to accessing powerful design tools, but it…
#ไม่มีแรงใดเสมอแรงแห่งกรรม
เมื่อเวลาวิบากกรรมจะให้ผล พลังแห่งกรรมจะเชื่อมโยง บุคคล กาลเวลา สถานที่ เพื่อกระทำเหตุการณ์ให้เกิดขึ้น พลังแห่งกรรมจะดึงบุคคลที่อยู่ในข่ายแห่งวิบากให้เข้ามารับกรรมวิบากร่วมกันอย่างที่คาดคิดไม่ถึง ในโลกนี้ไม่มีใครต้านแรงแห่งกรรมได้ และกรรมจะออกมาในรูปลักษณะไหนนั้น ก็ไม่มีใครที่จะทราบได้ แต่เมื่อมันเกิดขึ้น ก็มีแต่ต้องก้มหน้าก้มตายอมรับโดยถ่ายเดียว เพราะเป็นทางเดียวที่จะทำให้กรรมนั้นเป็นอโหสิได้(กรรมที่ให้ผลสำเร็จแล้ว) คือ ต้องยอมรับ จะทำอย่างไรได้เล่า ก็ชีวิตย่อมเป็นไปตามกรรมอยู่แล้ว จะโทษกรรมก็ไม่ได้ จะโทษตนเองก็ไม่ถูก จะโทษคนอื่นก็ใช่เหตุ การที่มัวแต่โทษสิ่งนั่นสิ่งนี้อยู่ ย่อมทำให้ชีวิตจมปลักและข้องอยู่กับปัญหา หากจะโทษ ก็ให้โทษวัฏฏสงสารการเวียนว่ายตายเกิด ที่เราหาข้อยุติกับมันไม่ได้ มันเป็นโทษของวัฏฏะโดยแท้ ! ผู้ฉลาดย่อมเรียนรู้ความผิดพลาดมากกว่าที่จะไปโทษความผิดพลาด ฉันใด ผู้ฉลาดย่อมเรียนรู้กรรมและผลของกรรมที่เกิดขึ้น มากกว่าที่จะไปโทษกรรมที่กำลังให้ผลอยู่ ฉันนั้น ทางที่ดีที่สุดให้หาทางออกไปจากวัฏฏะนี้ให้เร็วที่สุด จึงจะได้รับความปลอดภัยจากโทษแห่งวัฏฏะนั้น แม้กรรมจะยังส่งผลอยู่ กรรมนั้นก็เป็นอโหสิกรรมที่ให้ผลสำเร็จเป็นชาติสุดท้าย จารุวณฺโณ ภิกฺขุ (พระอาจารย์ต้น)#AjahnTon
#สังขารขันธ์ เป็นเช่นใด
จำไว้ว่า สังขารขันธ์จะทำหน้าที่มากกว่าขันธ์อื่น เพราะสังขารขันธ์ ทำหน้าที่ปรุงแต่งรูป ปรุงแต่งเวทนา ปรุงแต่งสัญญา ปรุงแต่งสังขาร คือปรุงแต่งตัวมันเองด้วย แล้วก็ปรุงแต่งวิญญาณ มันจึงทำหน้าที่มากกว่าตัวอื่น . การที่มันทำหน้าที่มากกว่าตัวอื่น คือมันมีบทบาทในการก่ออารมณ์ สร้างอารมณ์ ปรุงแต่งอารมณ์ได้มากกว่าขันธ์อื่น ขันธ์อื่นยังไม่สามารถก่อตัวอารมณ์ได้มากเท่ากับสังขารขันธ์ . บรรดาความคิด ความนึก ความปรุงแต่งอารมณ์ทั้งหลายเนี่ย ล้วนแล้วแต่มีมูลเหตุมาจากสังขารขันธ์ แม้แต่ความกลัว ความโกรธ ความวิตก ความกังวล อย่างนี้มาจากสังขารขันธ์ทั้งนั้น . ฉะนั้นสิ่งที่พระอาจารย์ขอแนะนำวิธีปฏิบัติในการจับอารมณ์ลงขันธ์เนี่ย ถ้าเราจับสัญญาขันธ์ได้ สังขารขันธ์จะทำหน้าที่น้อยลง . เพราะว่าสังขารขันธ์ คือการปรุงแต่ง จะทำหน้าที่หรือจะปรุงแต่งได้ ก็ต้องมีสัญญาขันธ์เป็นมูลฐาน . เมื่อมีสัญญาขันธ์เป็นมูลฐาน สัญญาคือข้อมูลที่จะทำให้สังขารทำหน้าที่ในการปรุงแต่ง คือตรึกนึก คิดนึก ไตร่ตรอง อะไรก็ตาม ต้องดึงมาจากสัญญาขันธ์ . ถ้าเราไปรู้สัญญาขันธ์เกิดดับ รู้การปรุงแต่งของสัญญาขันธ์ รู้การเกิดขึ้นของสัญญาขันธ์อยู่เรื่อยๆอยู่สม่ำเสมอ รู้ขันธ์เกิดดับ รู้สัญญาขันธ์เกิดดับ อยู่ได้เรื่อยๆ สังขารขันธ์จะทำหน้าที่น้อยลง คือทำหน้าที่ในการปรุงแต่งน้อยลง . แต่ก็มีบ้างเล็กๆน้อยๆ คือทำหน้าที่เพื่อให้อารมณ์บางอารมณ์เกิด…